@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 12/5 วันที่ 6 มี.ค. 56


อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 12/5 วันที่ 6 มี.ค. 56

ดวงตาแข็งกร้าวเพ่งลงไปในอ่างใส่เลือด มีน้ำตาเทียนลอยเหนือน้ำ เลือดในอ่างเริ่มเดือดปุดๆ แต่ทันใดนั้นก็ระเบิดตู้ม
หมอไสย์ทรุดล้มไอกระอักเป็นเลือด หมอไสย์พยุงตัวลุกขึ้น ปัดของใกล้ตัวทิ้งอย่างโมโห
“โธ่โว้ย ! เมื่อไหร่อาคมของข้าจะกลับมาเหมือนเดิมสักที”

สองเดือนผ่านไป... ภายในกระท่อม บาดแผลบนลำตัวขุนพิทักษ์ดีขึ้นแต่ตายังมองไม่เห็น ขุนพิทักษ์คลำทางจะเดินแต่สะดุดล้มลงและเจ็บแผลที่ท้อง

“โอ๊ย”
ชุ่มที่ท้องประมาณห้าเดือนวิ่งเข้ามาเห็นตกใจ รีบวิ่งเข้าไปประคองขุนพิทักษ์ จับมือเขาที่ท้องมาดู เห็นเลือดสดๆ ติดมือก็ตกใจ



ขุนพิทักษ์ถอดเสื้อ ชุ่มทำแผลให้
“เมื่อไหร่ข้าจะหายสักที อยู่แบบนี้ข้าทรมาน”
ชุ่มไม่ตอบ
“ทำไมเจ้าไม่พูดกับข้า”
ขุนพิทักษ์คว้ามือชุ่ม เค้นถาม
“พูดกับข้าสิ ให้ข้าได้คลายความอึดอัด อย่างน้อยข้าก็จะได้ขอบใจเจ้าที่เจ้าช่วยข้า”
ขุนพิทักษ์ชะงักไปทันทีที่จับมือของบุคคลปริศนาแน่น เขารู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด ชุ่มรีบชักมือออก
“เจ้า...เจ้าเหมือนคนที่ข้ารู้จัก”
ชุ่มรีบเก็บของทำแผลแล้วลุกออกไปเลย
“เจ้าเป็นใครกันแน่”
ชุ่มออกมาที่หน้ากระท่อมปิดปากร้องไห้เสียใจ

ที่เรือนขุนไว วันเดียวกัน รำพึงผลักจวงอย่างแรงจนกระเด็นติดข้างฝา
“มัวแต่โง่อยู่ล่ะสิ เอ็งถึงตามหานังชุ่มไม่เจอ”
จวงยกมือไหว้
“จวงขอโทษเจ้าค่ะ คุณรำพึงบอกจวงหน่อยเถอะเจ้าค่ะว่าจวงควรทำยังไง ต่อให้จวงต้องมุดรูเข้าไปลากคอมันออกมาให้ จวงก็จะทำเจ้าค่ะ”
รำพึงลดมือลง เดินกระฟัดกระเฟียดไปนั่งลง
“คุณรำพึงเจ้าขา ไหนๆ ท่านขุนพิทักษ์ก็ตายไปเป็นเดือนแล้ว ปล่อยๆ นังชุ่มมันไปเถอะเจ้าค่ะ ตามหาไปก็เหนื่อยเปล่า”
รำพึงบีบปากจวง จวงส่งเสียงร้องเจ็บ
“ข้าไม่ปล่อย ! นังชุ่มมันเป็นต้นเหตุทำให้ข้าต้องสูญเสียคุณพี่ มันต้องชดใช้ด้วยชีวิต”
ขุนไวในชุดทำงานเปิดประตูเข้ามา
“คุยอะไรกันอยู่ เสียงดังเอะอะไปถึงข้างนอกเชียว”
รำพึงรีบแก้
“นังจวงมันขัดใจน้องค่ะ”
ขุนไวหันไปถาม
“จวง...”
จวงโง่เลยโพล่งจะบอก
“คุณรำพึงให้บ่าวตามหา...”
รำพึงรีบแทรกขัดขึ้น
“หา...มะดันเปรี้ยวๆ ค่ะ น้องอยากกิน... ไปหามาสิ เร็ว”
จวงงง รำพึงถลึงตามอง จวงเข้าใจทันที
“เจ้าค่ะๆ เดี๋ยวอีจวงจะไปหามะดัน มะม่วง มะยม มะกอก มะนาว มาให้คุณรำพึงกินให้หายเข็ดฟันเจ้าค่ะ”
ขุนไวดีใจตื่นเต้น
“น้องอยากกินของเปรี้ยว หรือว่า...น้องตั้งท้องเราจะมีลูกกันอีกครั้งแล้วใช่ไหม”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ รอบเดือนน้องเพิ่งมาวันนี้เอง”
ขุนไวหุบยิ้มอย่างเสียดาย รำพึงกอดออดอ้อน
“ใจเย็นๆ สิคะคุณพี่ ขืนน้องท้องตอนนี้มีหวังได้ถูกนินทาแน่”
“ไม่เห็นจะเป็นอะไร ใครๆ ก็รู้ว่าไอ้ขุนพิทักษ์มันตายไปแล้ว น้องจะมีลูกกับพี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่น้องยังไม่อยากมีลูกกับพี่เพราะเรายังไม่ได้แต่งงานกันใช่ไหม”
รำพึงยังไม่ทันจะตอบ ขุนไวจับมือรำพึง
“ที่แท้ก็เรื่องนี้เอง มิน่าช่วงนี้น้องรำพึงถึงดูหงุดหงิดนัก งั้นเอาอย่างนี้เดี๋ยวเราไปหาหลวงตา ไปขอให้ท่านดูฤกษ์แต่งงานให้เรากันนะ เราจะได้มีลูกกันอย่างไม่ต้องกลัวใครนินทา ดีไหมจ๊ะ”
รำพึงน้ำท่วมปากที่ขุนไวเล่นรวบรัดตัดตอนเองหมด
“ตามใจคุณพี่ค่ะ”
ขุนไวสวมกอดรำพึงด้วยความรัก ต่างจากรำพึงที่ไร้อารมณ์ต่อขุนไวอย่างสิ้นเชิง

บนกุฎิ ชุ่มคุยกับหลวงตามั่น
“โยมจะให้ไอ้เผือกกับไอ้แก้วไปช่วยดูแลโยมพิทักษ์เหรอ”
ชุ่มหลบสายตา
“เจ้าค่ะหลวงตา ข้าท้องโตขึ้นทุกวัน ท่านขุนก็ตัวใหญ่ ข้าดูแลท่านขุนไม่ไหว”
“พูดปดถือว่าเป็นบาปนะ”
ชุ่มจำยอมพูดความจริง
“ข้า...เอ่อ...ข้าจะไปจากชีวิตท่านขุนก่อนที่ท่านขุนจะกลับมามองเห็นอีกครั้ง”
“อาตมาเคยขอบิณฑบาตให้อโหสิกรรมให้โยมพิทักษ์เขาแล้วไม่ใช่หรือ”
“ข้าอโหสิกรรมให้เขาแล้วเจ้าค่ะ แต่ทุกครั้งที่เห็นหน้าเขา อยู่ใกล้เขา ข้าจะต้องนึกถึงตอนที่เขาฆ่าพ่อแม่ ฆ่าพี่สม ข้ากับเขาไม่มีวันกลับมารักกันได้อีก”
หลวงตาถอนใจบอก
“โยมไม่กลัวไอ้แก้วไอ้เผือกมันเที่ยวเอาไปพูดว่า โยมพิทักษ์ยังไม่ตายเหรอ แล้วเมื่อข่าวถึงหูคนที่เคยทำร้ายเขา เมื่อนั้นชีวิตของโยมพิทักษ์ก็จะต้องตกอยู่ในอันตรายอีกครั้ง”
ชุ่มเงียบ
“ช่วยเขาแล้วก็ช่วยเขาให้ถึงที่สุดเถอะโยมชุ่ม เพราะเมื่อถึงวันหนึ่งถ้าโยมทั้งสองจะต้องจากกัน โยมจะได้ไม่มานั่งเสียใจภายหลัง”
ชุ่มหนักใจ

บริเวณหน้าวัด ขุนไวกับรำพึงกำลังเดินไปที่กุฎิหลวงตา จวงเดินตามต้อยๆ
“พี่ภาวนาขอให้หลวงตาบอกว่าฤกษ์แต่งงานของเราคือวันพรุ่งนี้”
“อุแหม...จะใจร้อนทำไมเจ้าคะท่านขุนไว ห้องหอก็เข้ากันมาแล้ว” จวงว่า
“นังจวง !”
“อุ้ย ! จวงขอโทษเจ้าค่ะ จวงหุบปากแล้วเจ้าค่ะ” จวงหุบปากหมับ
“พี่หยามเกียรติน้องรำพึงมานานแล้ว ถึงเวลาที่พี่จะต้องคืนศักดิ์ศรีให้น้องรำพึงสักที พี่จะเชิญผู้ใหญ่มางานของเรา ไม่ให้น้อยหน้ากว่าคราวงานของไอ้พิทักษ์เลย”
“คุณพี่อย่าพูดถึงขุนพิทักษ์ได้ไหมคะ น้องไม่อยากได้ยินชื่อเขาอีก”
“พี่ขอโทษ เราเข้าไปกราบหลวงตากันเถอะ”
ขุนไวเดินนำเข้าวัดไป รำพึงหันไปเห็นแจ่มเอาผ้าโพกหน้าเดินก้มหน้าก้มตาถือตะกร้าหวายไปทางข้างวัด รำพึงมองอย่างสงสัย
“นังแจ่ม !”

มุมหนึ่งในวัด รำพึงโผล่มาดักหน้า จวงผลักแจ่มล้มลง ตะกร้าในมือหล่นพื้น ข้าวห่อใบตอง กำดอกบัวกระจายเต็มพื้น
“เอ็งจะเอาของพวกนี้ไปไหน”
แจ่มส่งเสียงอ้อแอ้ชี้ไปที่วัด พนมมือบอกว่าจะมาทำบุญ
“จะไปทำบุญงั้นหรือ”
แจ่มพยักหน้า
“แน่ใจเหรอว่าไม่ได้เอาไปให้นังชุ่ม”
แจ่มส่ายหน้า
“เอ็งรู้หรือเปล่าว่านังชุ่มไปซุกหัวอยู่ที่ไหน”
แจ่มส่ายหน้า
รำพึงพุ่งเข้าไปหา
“แน่ใจ”
แจ่มพยักหน้าอย่างกลัวๆ
รำพึงจิกหัวแจ่มขึ้นมา จวงคอยดูต้นทางให้รำพึง
“ยังจำความรู้สึกตอนที่ยาพิษลงไปในคอเอ็งได้ใช่ไหม ถ้าข้ารู้ว่าเอ็งโกหกข้าเรื่องนังชุ่ม คราวนี้ไม่ใช่แค่คอเอ็งพังแน่ ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู”
รำพึงผลักหัวแจ่มออก แจ่มลุกขึ้นวิ่งลนลานหนีไป จวงหัวเราะเยาะเย้ยแจ่ม
“มันกลัวคุณรำพึงอย่างกับอะไรดี มันไม่กล้าลองดีกับคุณรำพึงแน่เจ้าค่ะ”
รำพึงพยักหน้านิดๆ เพราะเห็นด้วย

แจ่มวิ่งกลัวลนลาน แล้วชนกับใครบางคนเข้าอย่างจัง
“ขอโทษจ้ะ”
แจ่มกับชุ่มเห็นกัน ชุ่มดีใจ
“น้าแจ่ม !”
ทั้งสองกอดกันด้วยความดีใจจนน้ำตาไหล
“น้าแจ่มเป็นยังไงบ้าง ข้าเป็นห่วงน้ามาก แต่ข้าไม่กล้ากลับไปหาที่เรือน ข้ากลัวพวกเขาจะฆ่าลูกของข้า”
แจ่มนึกเรื่องรำพึงขึ้นมาได้ หันหลังไปมองทางที่วิ่งมา แล้วพยายามลากชุ่มออกไปจากตรงนั้น
“มีอะไรน้าแจ่ม จะพาข้าไปไหน”
แจ่มจูงมือชุ่มวิ่งออกไป

บนกุฎิ ขุนไวนั่งอยู่กับหลวงตามั่น รำพึงกับจวงเข้ามา จวงถือห่อดอกไม้ของแจ่มมา
“ทำไมน้องรำพึงถึงตามขึ้นมาช้าล่ะจ๊ะ”
“น้องไปหาดอกบัวมาถวายพระน่ะค่ะคุณพี่ วันหลังเอ็งอย่าลืมดอกไม้อีกนะจวง”
“เจ้าค่ะ”
“มีดอกไม้ทำบุญ น้องค่อยสบายใจหน่อย ไม่งั้นน้องจะรู้สึกเหมือนว่าทำบุญแต่ไม่ได้บุญ”
“ทำบุญด้วยอะไรก็ไม่ได้บุญเท่ากับทำด้วยใจที่เป็นบุญหรอกโยม”
หลวงตามองรำพึงนิ่ง รำพึงมองหลวงตาอย่างไม่ไว้ใจ

ที่เงียบๆท้ายวัด แจ่มจูงมือชุ่มเข้ามาหลบที่หลังต้นไม้ใหญ่ แล้วมองกลับไปทางที่เดินมาอย่างหวาดระแวง
“น้าแจ่มหลบใครจ๊ะ”
แจ่มส่ายหน้าไม่อยากพูดถึง แล้วกอดชุ่มแน่นด้วยความคิดถึงห่วงใย
“น้าแจ่มสบายดีใช่ไหม”
แจ่มพยักหน้าแล้วชี้และลูบท้องชุ่ม
“ข้ากับลูกสบายดี”
แจ่มยิ้มแล้วนึกได้ทำหน้าตาตื่น ชี้ตัวชุ่มแล้วจับมือชุ่มมาซบกับหน้าตัวเองทำท่าแสดงความรัก
“น้าแจ่มพูดถึงท่านขุนเหรอ”
แจ่มพยักหน้าแล้วก็น้ำตาไหล ทรุดตัวร้องไห้ ชุ่มสงสารแจ่มตัดสินใจบอก
“ท่านขุนยังไม่ตายหรอกน้าแจ่ม”
แจ่มหันมองด้วยความแปลกใจ

ขุนพิทักษ์นอนอยู่บนแคร่ แจ่มน้ำตาไหลยืนมองขุนพิทักษ์อย่างคาดไม่ถึงว่าเขายังมีชีวิตอยู่
“ข้าไม่อยากให้ใครรู้ว่าท่านขุนยังไม่ตาย เดี๋ยวพวกคนร้ายจะตามมาฆ่าเขา”
แจ่มคุกเข่าจับเท้าขุนพิทักษ์ ร้องไห้ดีใจ
ขุนพิทักษ์รู้สึกตัวตื่น
“เจ้ากลับมาแล้ว”
แจ่มดีใจเผลอร้องอ้อแอ้ ชุ่มแตะนิ้วชี้ที่ปากห้ามแจ่มไม่ให้ส่งเสียง
“ทำไมเสียงเจ้าเป็นแบบนั้น หรือว่าที่แท้เจ้าเป็นใบ้ เจ้าถึงไม่ยอมพูดกับข้า”

แจ่มแปลกใจ

ที่หน้ากระท่อม ชุ่มนั่งคุยกับแจ่ม
“ท่านขุนมองไม่เห็น ข้าก็เลยตัดสินใจไม่บอกให้เขารู้ว่าคนที่ดูแลเขาก็คือข้า เพราะพอท่านขุนหายดี ข้าจะพาลูกหนีไปจากที่นี่”
แจ่มจับมือชุ่มส่ายหน้าห้าม
“แต่เขาเป็นคนฆ่าพ่อแม่ ฆ่าพี่สม ถึงแม้ว่าท่านขุนจะไม่ได้ตั้งใจ แต่ข้าก็ทำใจไม่ได้ เลือดพ่อแม่ เลือดพี่สมยังติดตาข้าอยู่จนถึงทุกวันนี้ แล้วอย่างนี้ข้าจะใช้ชีวิตอยู่กับเขาได้ยังไง”
ชุ่มร้องไห้ แจ่มกอดชุ่ม
“น้าแจ่มเข้าใจชุ่มใช่ไหม”
แจ่มลูบไหล่ชุ่มอย่างไม่สบายใจ

ภายในเรือนคุณหญิง เวลากลางคืน แจ่มนำห่อยาฝรั่ง กระปุกขนมแห้งวางบนผ้าแล้วห่อ แจ่มนึกถึงที่รำพึงขู่

“ถ้าข้ารู้ว่าเอ็งโกหกข้าเรื่องนังชุ่ม คราวนี้ไม่ใช่แค่คอเอ็งพังแน่ ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู”

แจ่มพนมมือ
“คุณหญิงเจ้าขา แจ่มจะดูแลลูกหลานของคุณหญิงตามที่เคยให้สัญญาไว้ แต่ต่อจากนี้ไป..หากเกิดสิ่งใดขึ้นก็สุดแต่โชคชะตานะเจ้าคะ”
แจ่มห่อผ้าต่อด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยว

ผ่านไปหลายวัน แจ่มโพกผ้าปิดหน้าถือห่อผ้าเพิ่งมาถึง แจ่มเปิดประตูเข้าไปเห็นชุ่มเปลี่ยนผ้าพันแผลให้ขุนพิทักษ์ก็ยิ้มสุขใจ
ภายในกระท่อม แจ่มส่งชามยาให้ชุ่ม ชุ่มรับไปป้อนขุนพิทักษ์ ชุ่มพอกยาที่ตาให้ขุนพิทักษ์

ภายในห้องนอน ขุนไวกับรำพึงในชุดแต่งงานนั่งอยู่บนเตียง ขุนไวมองรำพึงด้วยความรัก รำพึงยิ้มแล้วทั้งสองก็ล้มตัวลงบนเตียง

กลางคืนของวันใหม่ ขุนพิทักษ์ถอดผ้าพันแผลที่ตัวออกเพราะแผลแห้งแล้ว ขุนพิทักษ์ยิ้มนิดๆ แล้วตัดสินใจดึงผ้าที่ตาออก
ชุ่มท้องโตขึ้นถือชามยาเข้ามาพอดี เห็นขุนพิทักษ์ถอดผ้าที่ตาออกแล้ว ทั้งสองสบตากัน ชุ่มตกใจจนชามยาหล่นพื้น
“เจ้า !”
ชุ่มหันหลังจะวิ่งไป
“ทำไมข้ายังมองไม่เห็น...”
ชุ่มชะงักหันมองเห็นขุนพิทักษ์เดินคลำหาทาง เขายังตาบอด
“เจ้าอยู่ไหน”
ชุ่มเห็นอาการขุนพิทักษ์ที่เดินตุปัดตุเป๋ก็เข้าไปช่วย มือของขุนพิทักษ์ยึดเหนี่ยวชุ่มไว้แน่น
“ข้าตาบอดใช่มั้ย”
ขุนพิทักษ์เสียใจทรุดนั่ง ชุ่มได้แต่กอดปลอบใจขุนพิทักษ์

คืนเดียวกัน ฝ่ายหมอไสย์ยังคงเพ่งลงไปที่น้ำเลือดในอ่าง แล้วบริกรรมคาถา เลือดในอ่างเริ่มเดือดปุดๆ ดวงตาหมอไสย์แข็งกร้าว บริกรรมคาถารัว
เลือดในอ่างไฟลุกพรึ่บ หมอไสย์ยิ้มตาวาวแล้วหันไปเป่าชาม หนอนปรากฏขึ้นในชาม
“ข้าคิดถึงพวกเจ้าเหลือเกิน”
หมอไสย์หัวเราะอย่างสะใจ

ภายในป่า เวลากลางวัน จวงถือตะกร้าไปจ่ายตลาดมา จวงเดินแทะเม็ดมะม่วง ซี๊ดซ้าดเปรี้ยวจี๊ด จวงเห็นกองเลือดหยดเป็นทางยาวหยดไปตามพื้น
“เลือด ! เลือดอะไรวะ”

จวงเดินตามหยดเลือดบนพื้นมาเรื่อยๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมองเห็นว่าหยดเลือดไปถึงเรือนหมอไสย์ จวงแปลกใจย่องๆ เข้าไปใกล้หน้าต่าง แอบดู เห็นหมอไสย์ชูแมวดำเหนือถ้วยให้เลือดจากแมวไหลลงชาม ก่อนแสยะยิ้มเหี้ยม
“เฮ้ย !”

บนเรือนขุนไว รำพึงคุยกับจวง
“อาคมของหมอไสย์คืนกลับมาแล้ว”
“เจ้าค่ะ หนำซ้ำหน้ามันยังดูเหี้ยมกว่าเดิมด้วยเจ้าค่ะ จวงก็เลยมีแผนเด็ด”

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 12/5 วันที่ 6 มี.ค. 56

ละครเรื่อง บ่วงบาป บทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละครเรื่อง บ่วงบาป บทโทรทัศน์ : พอวาสน์-นันทพร
ละครเรื่อง บ่วงบาป กำกับการแสดง : กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง บ่วงบาป แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง บ่วงบาป ผลิต : บ้านละคอนโดย อรพรรณ วัชรพล
ละครเรื่อง บ่วงบาป ออกอากาศทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่ม กุมภาพันธ์ ทางไทยทีวีสีช่อง3
ที่มา manager