@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 13/3 วันที่ 2 มี.ค. 56


อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 13/3 วันที่ 2 มี.ค. 56

“หนอยแน่ะ ทำเป็นไม่สนใจ ไอ้หมอปากแข็ง เค้าจะแต่งงานอยู่แล้วนะโว้ย”
นาวินมองอย่างหงุดหงิด
“เออ ไม่สนใจงั้นชั้นนอนก็ได้โว้ย”
นาวินล้มตัวลงนอนหันหลังไม่สนใจปฐวี ปฐวีเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะถอนหายใจเศร้าๆ แล้วเขียนบันทึกต่อไป

พระอาทิตย์เช้าวันใหม่โผล่พ้นขอบฟ้า ปฐวีกับหนึ่งฤทัยยืนส่งนาวินที่รถ



“ชั้นไปก่อนนะโว้ย แล้วเจอกัน”
“ขอบใจมากนะที่มาเยี่ยม” ปฐวีขำ
“ขำอะไร”
“ก็แกอุส่าห์มาตั้งไกล ดันมาแค่คืนเดียว”
“ใครจะไปรู้ว่าไกลขนาดนี้ล่ะ แล้วก็ไม่ได้ว่าง มีการมีงานทำ”
ปฐวีขำ รถสองแถวแล่นมาจอด
“น่าจะอยู่อีกซักวันนะคะ” หนึ่งฤทัยบอก
“ไม่ไหวละครับ วันเดียวผมก็เบื่อจะแย่แล้ว ไปแล้วครับ”
“แล้วเจอกัน”
“ไม่เป็นไร ถ้าแกไม่กลับ ชั้นจะมาตาม” นาวินบอก
นาวินโบกมือบ๊ายบายแล้วขึ้นรถไป

เด็กสามคนเดินออกจากห้อง สุดนภาที่สอนเสร็จแล้วเดินออกจากห้องเรียนพร้อมหนังสือนาวินเดินเข้ามาในชุดสะพายกระเป๋า กางเกงสามส่วน
นาวินพูดหน้าตาซีเรียส “ครูบี๋ ตามผมมาที่ห้องหน่อย”
สุดนภางงๆ แต่ก็รีบตามนาวินไปทันที

นาวินเหวี่ยงกระเป๋าลงแล้วนั่ง สุดนภาลงนั่งตรงข้าม
“มีอะไร” สุดนภาถามตื่นๆ
นาวินพูดหน้าตาซีเรียส “... คิดถึง”
สุดนภาเด้งตัวขึ้นมาตบโต๊ะดังปัง นาวินสะดุ้งโหยง
“จะบ้าหรือ นึกว่ามีอะไร ตกใจหมด”
นาวินโบกมือให้ใจเย็นๆ “จะเข้าเรื่องแล้ว นั่งลงก่อน”
สุดนภาค้อนแล้วนั่งลง
“คือ งี้ ผมอยากจะขอความช่วยเหลือคุณ”
สุดนภามองหน้านาวินด้วยความแปลกใจ
สุดนภาลงจากรถแล้ววิ่งปรู๊ดเข้าไปข้างในบ้านตันหยงทันที บุหงากับพินิจนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในบ้าน สุดนภาวิ่งเข้ามาแล้วเบรกพร้อมกับรีบยกมือไหว้ บุหงากับพินิจรับไหว้อย่างงงๆ
“คุณพ่อคุณแม่ขา หยงอยู่ไหนคะ”
“แต่งตัวอยู่ข้างบนจ๊ะ มีอะไรหรือ...”
สุดนภาวิ่งปรู๊ดขึ้นไปทันที บุหงากับพินิจมองตามงงๆ
“ยายบี๋นี่ ไปมายังกะพายุจริงๆ” พินิจว่า
“อะไรของเค้ากันแน่ เฮ้อ สาวๆสมัยนี้ เข้าใจยากจังเลย” บุหงาบ่น

สุดนภาพรวดพราดเข้ามาในห้อง ตันหยงหันไปมองอย่างงงๆ สุดนภามองที่เตียง เห็นเสื้อผ้าที่ตันหยงกำลังจัดเรียงลงในกระเป๋าใบใหญ่
“นี่แกจะรีบจัดของไปไหน” สุดนภาถาม
“ก็เตรียมๆไว้ก่อน พอเสร็จงานชั้นต้องเดินทางไปพร้อมกับพิราม”
สุดนภาถอนหายใจ “ชั้นเอาของมาให้แก”
“ให้ทำไม ยังไม่ถึงวันงานซักหน่อย”
“ไม่ใช่ของชั้น ของนาวินเค้าฝากมา”
“ทำไมต้องฝาก หรือว่าวันงานเค้ามาไม่ได้”
“หยง แกหยุดถามซะทีได้มั้ย รับไปแล้วแกจะเข้าใจทุกอย่างเอง”
สุดนภาส่งถุงให้ ตันหยงรับมาอย่างงงๆ แล้วทำท่าจะแกะ
เสียงบุหงาดังขึ้น “หยง คุณพิรามมาแล้วลูก แต่งตัวเสร็จหรือยัง”
ตันหยงหันไปมองที่ประตู
“เสร็จแล้วค่ะแม่ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ” ตันหยงพูดกับสุดนภา “พิรามมารับชั้นไปทานข้าว ไปด้วยกันมั้ย”
สุดนภาส่ายหน้า
“ตามใจ งั้นชั้นไปก่อนนะ”
ตันหยงวางของไว้บนโต๊ะแล้วหยิบกระเป๋าถือเดินออกจากห้องไป สุดนภามองของแล้วหันไปมองตันหยงก่อนจะถอนหายใจยาวแล้วเดินตามตันหยงออกไป
หนึ่งฤทัยกับปฐวีเดินเคียงคู่กันมาตามทาง
“วีรู้มั๊ยคะ ทำไมหนึ่งถึงตัดสินใจมาเป็นหมอ”
ปฐวีคิด “ขอเดาว่า เพราะคุณชอบ”
“หนึ่งมาเป็นหมอเพราะวีค่ะ” หนึ่งฤทัยบอก
หนึ่งฤทัยยิ้มแล้วพูดต่อ “จริงๆนะ วีสอนให้หนึ่งรู้ถึงการเป็นหมอทั้งกายและใจ”
“ถึงจะไม่ใช่เพราะผม หนึ่งก็เหมาะกับอาชีพแพทย์ ทั้งตัว และใจ”
หนึ่งฤทัยมองตาปฐวีแล้วยิ้มก่อนที่เธอจะจับมือปฐวีไว้
“วีคะ หนึ่งรักวีค่ะ”
ปฐวีมองอย่างหนักใจก่อนจะยกมือหนึ่งฤทัยขึ้นมา “ขอบคุณทุกความรู้สึกดีๆที่หนึ่งมีให้ผม แต่ผม.....”
“หนึ่งรู้ว่าวีไม่เคยรักหนึ่ง แต่หนึ่งก็หวังว่าซักวัน หนึ่งอาจจะเปลี่ยนใจวีได้”
หนึ่งฤทัยเศร้าจนปฐวีสงสารต้องดึงเธอเข้ามากอดปลอบ


ปฐวีมานั่งที่โต๊ะในบ้านพักโดยที่ยังสงสารหนึ่งฤทัย แล้วเขาก็พยายามเลิกคิด ก่อนจะหาไดอารี่แต่หาไม่เจอ ปฐวีงงว่าหายไปไหน
ตันหยงเดินไปที่เตียงแล้วก็นึกได้จึงเดินกลับมาที่โต๊ะเขียนหนังสือแล้วแกะห่อกระดาษของที่สุดนภาเอามาให้ออก
“อะไรของเค้านะ”
ตันหยงแกะห่อออกจนพบว่าเป็นสมุดบันทึกของปฐวี ตันหยงเปิดสมุดบันทึกจนเห็นภาพร่างหน้าตันหยง ตันหยงอึ้งก่อนจะค่อยๆเปิดอ่าน
“ผมมาถึงที่นี่วันแรก อากาศที่นี่ดีมาก ผู้คนก็เป็นมิตร ตอนกลางคืน ดาวสว่างเต็มท้องฟ้า ไม่เคยเห็นดาวมากมายเท่านี้มาก่อน ผมอยากให้คุณมาเห็นจังเลย ตันหยง......”
ตันหยงเปิดหน้าต่อไปพร้อมเดินไปริมหน้าต่าง
“ชาวบ้านที่นี่น่าสงสาร คนป่วยก็มีจำนวนมาก แต่ถึงต้องรอนาน พวกเค้าก็ยังยิ้มแย้ม เพราะพวกเค้าดีใจที่มีหมอมาดูแล .....หมออย่างพวกเรา ถึงแม้จะเหนื่อย แต่เราก็มีกำลังใจที่ได้จากชาวบ้านและผม ยังมีกำลังใจ เมื่อนึกถึงคุณ .....”
“เวลาผ่านไปหลายวัน คนไข้ไม่ได้มีจำนวนลดลงเลย หมอเหน็ดเหนื่อยกันมาก วันนี้มีเด็กคนนึงชื่อหยง เล่นเอาผมสมาธิแทบแตก เพราะคิดว่าคุณมา อดขำตัวเองไม่ได้ ผมคงคิดถึงคุณมากเกินไปแล้ว” ตันหยงหัวเราะ
ตันหยงยิ้มและขำ ตันหยงเงยหน้าขึ้นด้วยความรู้สึกคิดถึงปฐวีมาก

ตันหยงเดินอ่านต่อไปเรื่อยๆ ตามมุมต่างๆ ของบ้าน
“วันนี้มีหมอกลับไปอีก เหลือน้อยลงทุกที เพราะพวกเค้ามีภาระหน้าที่หลัก ที่ต้องไปทำ ผมก็เช่นกัน เมื่อถึงเวลาก็ต้องกลับไป ไม่รู้ว่าเมื่อถึงวันนั้น ผมจะลืมคุณได้รึยัง”
“มีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะบอกคุณ ผมไม่เคยโกรธคุณเลย ที่รู้ว่าคุณอยู่ในร่างน้องเมย์ ผมสูญเสียน้องเมย์ไป และตลอดเวลา คนที่มาอยู่ใกล้ชิดผม .....คือคุณ ผมไม่เข้าใจตัวเอง ว่าทำไมถึงรู้สึกกับคุณมากมาย มันอาจเป็นความรัก หรือว่ามันคือความผูกพันธุ์ ผมยังหาคำตอบไม่ได้”
“วันนี้ผมไม่เป็นอันทำงาน เมื่อรู้ว่าคุณจะแต่งงานในอีกไม่กี่วันข้างหน้าบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง มันเจ็บปวด ความรู้สึกนี้มันทรมานใจผมมาก ผมอยากให้เวลานี้มันผ่านไปเร็วๆ แต่เวลามันกลับเดินช้าเหลือเกิน....”
“ผมกำลังจะสูญเสียคุณ ผมเหมือนคนบ้า ที่จะพยายามจะเหนี่ยวรั้งความรู้สึกตัวเอง ให้กลับมาเป็นคนเดิม นับจากวันที่สูญเสียน้องเมย์ จนถึงวันที่ได้คุณกลับมา แต่สุดท้าย...ผมก็ยังสูญเสียคุณไป ผมอยากลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเรา ผมอยากลืมคุณให้ได้ แต่ไม่เคยทำได้ซักวัน ตันหยง .....ผมรักคุณ”
“ผมขออวยพรให้คุณมีความสุขกับชีวิตใหม่ เป็นครอบครัวที่อบอุ่น และผม..จะเป็นกำลังใจให้คุณตลอดไป”
ตันหยงร้องไห้แล้วฟุบหน้าลงกับโต๊ะกลางบ้านท่ามกลางความมืด

เช้าวันใหม่ พิรามเดินเข้าไปหาตันหยงแล้วค่อยๆหยิบไดอารี่ขึ้นมา พิรามหยิบขึ้นมาเปิดอ่านทีละหน้าจนถึงหน้าสุดท้าย แล้วกระดาษของไดอารี่ก็เลอะคราบน้ำตาของพิราม

พิรามยิ้มเศร้าพร้อมกับมองตันหยง เขาถอดเสื้อนอกคลุมตัวตันหยงไว้ พิรามมองไดอารี่ในมือแล้วนิ่งคิด

ตันหยงงัวเงียลุกขึ้นมาเห็นเสื้อของพิรามกำลังเลื่อนตกจากตัว ตันหยงหยิบมาดูแล้ววางลง เธอหยิบไดอารี่มาเปิดแล้วเจอกระดาษแทรกอยู่ ตันหยงหยิบมาดูแล้วรีบเดินออกนอกห้อง พร้อมไดอารี่ในมือ

ตันหยงวิ่งมาเจอบุหงายืนอยู่ด้านนอก
“คุณแม่ขา พิรามมาหรือคะ”
“กลับออกไปเดี๋ยวนี้เอง ไหนเค้าบอกว่าเจอลูกแล้วนี่ ยังไงกันนี่” บุหงางง “นี่เราสองคนมีอะไรกันหรือเปล่า”
ตันหยงส่ายหน้า “เปล่านี่คะ คุณแม่”
ตันหยงไดอารี่ขึ้นมาดูแล้วถอนหายใจ
“หยงขอตัวก่อนนะคะคุณแม่”
ตันหยงเดินขึ้นข้างบน บุหงามองอย่างไม่เข้าใจ

ตันหยงยืนอยู่ริมหน้าต่างห้องโดยทำหน้าคิดหนัก เธอหยิบกระดาษที่สอดในไดอารี่ขึ้นมาเปิดดูลายมือพิรามที่เขียนเอาไว้ว่า
“.......หยงครับ ที่ผ่านมาผมมีความสุขมาก ในชีวิตผมมีหยงเป็นส่วนหนึ่งเสมอมา แม้กระทั่งวันนี้ วันที่ผมได้รู้จริงว่า หยงไม่มีผมอยู่ในใจอีกต่อไป ผมเข้าใจและไม่โกรธหยงแม้แต่น้อย แต่เหนือสิ่งใด ผมอยากให้หยงมีความสุข อย่าลังเล หากหยงจะรักใครซักคนที่ไม่ใช่ผม”
ตันหยงเงยหน้าขึ้นมาด้วยความเศร้า “พิราม...”
ตันหยงอ่านต่อ

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 13/3 วันที่ 2 มี.ค. 56

พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
พรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56
ที่มา manager