@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 13/4 วันที่ 15 มี.ค. 56


อ่านละคร ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 13/4 วันที่ 15 มี.ค. 56

“อืม...ก็ใช่...ก็เหมือนที่พ่อคุณเคยทำไว้กับพ่อแม่ผมไง!”
อรชาน้ำตารื้น ตัดสินใจทรุดลงนั่งที่พื้น ยกมือขึ้นไหว้ กร้าวชะงักมองอย่างไม่คาดคิด
“อรยอมทุกอย่างแล้ว...อรขอรับผิดแทนคุณพ่อทั้งหมด คุณจะฆ่าจะแกงอรก็เชิญ แต่อรขอให้คุณปล่อยนุชไป อย่าทรมานน้องสาวอรอีกเลย”
กร้าวเบือนหน้าหนี อรชายิ่งหวั่นใจ รีบเข้ามาเกาะขาเขา
“คุณกร้าว...อรขอเถอะนะคะ”

กร้าวนึกถึงความแค้นที่แม่เขาขอร้องประสิทธิ์หันมายิ้มร้าย กร้าวย่อตัวลงข้างๆอรชา เชยคางเธอขึ้นมา
“แล้วคุณจะชดเชยให้ผมยังไง...หรือว่า...เอาตัวคุณมาแลกกับอนุช ดีไหม”


อรชาชะงัก แต่ถ้าต้องแลก ก็ยอมทรมานแทนน้อง
อรชามีสีหน้าหวั่นใจ แต่อยู่ๆกร้าวก็หัวเราะขึ้นมา อรชางง เขาสะบัดออกจากเธอ

“นี่คุณคงอยากมาแทนน้องสาวจนตัวสั่นเลยสิท่า”
อรชาอึ้งไป รู้สึกเสียหน้า
“รู้ไหม อะไรที่มันง่ายๆ ผู้ชายเขาไม่ชอบหรอก หัดสงวนท่าทีไว้บ้าง!”
อรชาลุกขึ้นมา
“คุณกร้าว! คุณดูถูกฉันมากเกินไปแล้ว!”

อนุชยังทรุดเครียดอยู่ที่ประตู แต่แล้วนึกอะไรขึ้นมาได้รีบไปที่เตียง ดึงผ้าปูที่นอนออกมาผูกกับรั้วระเบียง ลองดึงดูให้แน่ใจเห็นว่าแน่นดีแล้ว เธอปีนออกไป

อรชาเริ่มร้องไห้ ต่อว่ากร้าว
“หรือที่ผ่านมา คุณเห็นฉันเป็นแค่เครื่องมือล้างแค้นเท่านั้นจริงๆ”
กร้าวหน้านิ่ง
“ใช่ คุณมีค่าแค่นั้นจริงๆ”
“คุณใจร้ายมาก คุณกร้าว!”
กร้าวยิ้ม
“โทษผมไม่ได้หรอก...ถ้าจะโทษก็ต้องโทษพ่อคุณ ที่มาทำชั่วทำเลวกับครอบครัวผมก่อน!”
อรชายืนร้องไห้ จ้องมองเขาอย่างผิดหวัง กร้าวแกล้งทำหน้าสงสารเดินเข้ามาลูบผม
“โถ...นี่คุณรักผมเข้าแล้วจริงๆเหรอเนี่ย...ถ้าอย่างนั้น ผมจะรับคุณไว้ในฐานะเมียน้อยดีไหม
ยังไงน้องคุณก็เป็นเมียหลวงไปแล้ว”
อรชาตบหน้าเขาแล้ววิ่งร้องไห้ออกไป กร้าวเจ็บปวดกับสิ่งที่ทำ แต่ก็สะใจในการแก้แค้นระคนกัน

อนุชวิ่งออกมาจากข้างตัวบ้าน แล้วต้องชะงักไป เมื่อเห็นอรชาวิ่งร้องไห้กลับมาขึ้นรถ อนุชเห็นก็ใจหายด้วยความเป็นห่วง
“พี่อร...”
อนุชรีบวิ่งไปที่รถอรชา แต่พอมาถึงหน้าตัวบ้านก็โดนกร้าวกระชากตัวไว้ได้ อรชาไม่เห็นอนุช ขับรถออกไป อนุชพยายามตะโกนเรียก
“พี่อร...พี่อร...”
อรชาไม่ได้ยิน ร้องไห้ขับรถออกไป กร้าวยิ้มสะใจ อนุชหันมาเห็นรอยยิ้มของเขา
“คุณทำอะไรพี่อร!” เธอทุบเขา “บอกมานะ คุณทำอะไรพี่อร!”
“ผมจะไปทำอะไรได้ ถ้าหากเขาไม่เต็มใจเจ็บเพราะผม”
กร้าวยิ้มเย้ย ก่อนจะกลับเข้าไปในบ้าน อนุชมองตามรถอรชาไปอย่างเป็นห่วง

แท็กซี่มาจอดที่หน้าคอนโดของกร้าว ลลิตาก้าวออกมาจากรถ มองซ้ายมองขวาอย่างระวังตัว
เมื่อไม่เห็นใคร เธอมองกระเป๋าบรรจุเงินในมือ ยิ้มลำพองจะเข้าไปในคอนโด เชิดออกมาจากมุมหนึ่ง ลลิตาชะงัก ตกใจ
“ธนาคารปิดซะก่อนสิท่า แกเลยยังไม่ทันได้ฝากเงิน...นับเป็นโชคดีของฉัน”
ลลิตาตาเหลือกตัดสินใจวิ่งหนีออกไปที่ถนน เธอวิ่งหนี พลางร้องตะโกนให้คนช่วย
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยฉันด้วย!”
ถนนเงียบเชียบ เชิดวิ่งตามมาไม่ลดละ ลลิตาสะดุดล้ม เชิดเข้ามาจิกผมขึ้นมา
“ฤทธิ์มากนักนะ แกคิดว่าจะหนีฉันพ้นเหรอ”
“ยอมแล้ว ฉันยอมแล้ว”
ลลิตาจะหลอกให้เชิดตายใจแล้วเอากระเป๋าฟาดใส่อีกแต่เชิดรู้ทัน รับกระเป๋าไว้ได้ ทั้งสองยื้อกระเป๋ากัน
“ปล่อยนะ ไอ้เชิด ไอ้ชั่ว นี่มันเงินของฉัน!”
เชิดยื้อกระเป๋าไว้ แต่มืออีกข้างล้วงมีดขึ้นมา เขาสะบัดมือ กดใบมีดเด้งออกมา ลลิตชะงัก
“ก...แก...”
“พูดดีๆไม่ชอบใช่ไหม”
ลลิตาตื่นกลัว
“ฉ...ฉันยอมแล้ว...แกเอาส่วนของแกไปเลยเอาไปครึ่งนึงเลยก็ได้”
“ครึ่งนึงเหรอ นังตา”
เชิดกระชากกระเป๋าไป ยื่นมีดมาขู่ ครึ่งนึงน่ะ มันก่อนที่แกจะทำฉันเหนื่อย แต่ตอนนี้มันไม่พอแล้ว”
ลลิตาหน้าเสีย
“แกจะเอาไปทั้งหมดไม่ได้นะ แล้วส่วนของฉันล่ะ!”
“แกก็จับไอ้เสี่ยหนุ่มรูปหล่อนั่นให้ได้สิวะ แล้วเงินในกระเป๋านี้ก็จะเป็นแค่เศษเงินสำหรับแก”
เชิดเอากระเป๋าไป ลลิตาอึ้งค้าง แต่แล้วความละโมบบังตา เธอเข้าไปแย่งกระเป๋าจากเชิดอีกครั้ง
“ไม่ได้ แกเอาไปหมดไม่ได้!”
ลลิตาเอากระเป๋าสะพายฟาดใส่

“หยุด เลิกบ้าซะที”
เชิดดึงกระเป๋าสะพายของลลิตาไว้

“แกปล่อยนะ อย่าเอามือสกปรกของแกมาแตะกระเป๋าแบรนด์เนมของฉัน!”
เชิดโยนกระเป๋าเงินออกไป ดึงมีดออกมาอีกครั้ง กดมีดเด้งออกมา ลลิตาชะงัก เชิดเอามีดจิ้มทะลุกระเป๋าสะพาย ลลิตากรี้ดลั่น
“ไอ้เชิด ไอ้บ้า แกทำกระเป๋าฉันทำไม!”
ลลิตาเข้าไปทุบ เชิดผลักอย่างแรง ลลิตาล้มกลิ้งลงกับพื้น เชิดย่างสามขุมเข้าหา ลลิตาพยายามถดตัว ถอยหนี เชิดเข้ามาจับข้อเท้าไว้ได้ ลลิตาตกใจ
“อย่านะ ไอ้เชิด แกจะทำอะไร!”
อยู่ๆเชิดก็ถอดรองเท้าลลิตาออกมา
“นี่ก็แบรนด์เนมด้วยสิท่า”
เขากรีดรองเท้าของเธอจนขาดยับ ลลิตากรี้ด
“ไอ้เชิด ไอ้ชั่ว รองเท้าฉัน!”
เชิดลุกขึ้น โยนรองเท้ากลับคืนให้ ชี้มีดขู่
“อย่าตามมาอีกนะ ไม่งั้นที่โดนกรีด จะไม่ใช่ข้าวของ แต่เป็นตัวแก!”
เชิดกลับไปหิ้วกระเป๋าเงิน เดินไปมิวายหันกลับมามองเยาะเย้ย ลลิตาสูญทั้งเงิน ทั้งข้าวของแบรนด์เนมพังเสียหายได้แต่ดิ้นพร่านอยู่ที่พื้นอย่างเจ็บใจ

กร้าวเข้ามานั่งในห้อง อนุชตามเข้ามาท่าทางจริงจัง
“คุณกร้าว คุณต้องการยังไง คุณบอกมาสิว่าคุณจะเอาอะไรจากพวกฉันอีก!”
กร้าวเตือนตัวเองเรื่องความแค้น ไม่หันไปมองอนุช
“พวกฉันไม่มีอะไรจะให้คุณแล้ว นอกจากชีวิต”
“ชีวิต...ก็อาจจะแค่นั้น ที่ผมต้องการ”
“หรือคุณต้องการให้พวกเราตกตายไปจนหมดคุณถึงจะพอใจ!”
“ก็ไม่แน่!”
กร้าวลุกออกไป อนุชตามมาดึงไว้
“คุณกร้าว...ฉันขอร้องล่ะ ปล่อยพวกพี่ๆของฉันไปเถอะนะ”
“พวกวิชเวทย์ทุกคนต้องรับผิดชอบ”
อนุชจับมือเขาไว้
“ฉันขอรับแทนพี่ๆ ได้ไหมคุณกร้าว ปล่อยพี่ๆฉันไป แล้วฉันจะยอมคุณทุกอย่าง”
กร้าวยิ้มเจ้าเล่ห์
“ยอมทุกอย่างเลยเหรอ”
อนุชกัดฟัน
“ทุกอย่าง!”

อนุชนอนอยู่บนเตียง สีหน้าทุกข์ใจและเป็นกังวลอย่างที่สุด กร้าวอาบน้ำเสร็จ อยู่ในชุดนอน เดินมาหยุดมองอนุชที่นอนตัวแข็งอยู่ที่เตียง เขาเข้ามานั่งข้างเธอเอียงเข้ามาใกล้ อนุชนอนหลับตา เตรียมรับชะตากรรม แต่แล้วเขาก็แค่เอื้อมมือมาปิดโคมไฟ แล้วนอนลงด้านข้างหันหลังให้ อนุชค่อยๆลืมตา เห็นเขานอนหันหลังให้ก็แปลกใจ เธอนอนหันหลังให้เขาครุ่นคิด...กร้าวเองก็นอนไม่หลับ ทั้งสองต่างนอนหันหลังให้กัน ครุ่นคิดกันไป

เช้าวันใหม่...รถตำรวจแล่นเข้ามาจอด ชายธงลงจากรถ พร้อมตำรวจ 2 คน
“ที่นี่แหละครับ บ้านายกร้าว ศุภกาญจน์ คนที่ทำร้ายร่างกายผม!”
ตำรวจคนหนึ่งมากดกริ่ง แต่มีใครออกมา
“บุกเข้าไปเลยครับ มันขังเพื่อนผมไว้ที่นี่”
ตำรวจหันมาบอก
“ต้องมีหมายค้น”
“งั้นคุณตำรวจไปเอาหมายค้นมาเลย!” ชายธงบอกทันที

ชายธงเดินนำตำรวจเข้ามาในบ้าน อรชาเข็นรถอสิตตามเข้ามา
“ชายธง เจอนุชรึยัง”
“มันขังนุชไว้ที่ห้องข้างบน”
ชายธงนำทุกคนมาถึงหน้าห้องที่มีกุญแจคล้องไว้
“ห้องนี้แหละครับ นุชอยู่ในห้องนี้!”
ตำรวจรีบเข้าไปเปิด ในห้อง อรชาและอสิตโผเข้ามาอย่างดีใจ
“นุช...”
ในห้องว่างเปล่า ไม่มีใครเลยสักคน ชายธงหน้าเสีย
“เป็นไปได้ยังไง!”

กร้าวขับรถมาตามถนนโดยมีอนุชนั่งข้างๆส่วนขำนั่งที่เบาะหลัง กร้าวเหลือบมองอนุช
“ไม่ลืมอะไรนะ”
อนุชส่ายหน้า
“ดีแล้ว...เพราะจากนี้ คงอีกนานกว่าคุณจะได้กลับเข้ากรุงเทพอีกครั้ง”
อนุชหน้าเครียด เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างรถ

อรชาเข็นรถอสิตกลับมาที่บ้าน ปรารภยืนรออยู่ อรชาเห็นปรารภก็อึ้งไปไม่สบายใจที่เคยปฏิเสธเรื่องที่เขาขอเธอแต่งงาน
“คุณรภ...”
อสิตมองท่าทีของอรชาอย่างเป็นห่วง

อรชาวางแก้วน้ำตรงหน้าปรารภ แล้วนั่งลงฝั่งตรงข้าม เธอมองหน้าเขาไม่ติด
“อรคิดว่าคุณจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว หลังจาก...”
“ผมผิดเองที่เร่งรัดคุณอร แต่ตอนนี้ผมคิดได้แล้ว...แค่คุณอรให้ความเป็นเพื่อนกับผมก็ดีนักหนาแล้ว ผมจะไม่ขอให้คุณอรลืมนายกร้าว...”
“อย่าพูดถึงเขา!”
ปรารภชะงัก อึ้งไป
“คุณอร...”
“อรโง่เอง ที่เคยคิดว่าเขาอาจจะมีเยื่อใย อรผิดที่ยังหวังอยู่ลึกๆว่าจะทำให้เขาลืมการแก้แค้นได้...”
อรชาน้ำตารื้น
“แต่ในที่สุด...อรก็เป็นได้แค่เครื่องมือแก้แค้นของเขา”
อรชาก้มหน้าร้องไห้ ปรารภเห็นใจ เข้าไปนั่งข้างๆ แตะไหล่เธอปลอบ
“คุณอร...”
อรชาโผเข้ากอดร้องไห้กับอกเขา ปรารภได้แต่ลูบผมปลอบใจ

อสิตมายืนมองอยู่ ได้แต่ทอดถอนใจ ก่อนจะหันหลังออกไป
อสิตเข็นรถเข้ามาในห้องนอนของตน ยันตัวลุกขึ้นจะไปนั่งบนเตียงแต่เซไปเกาะโต๊ะข้างเตียงที่โต๊ะนั้นมีรูปของเขากับลลิตายังวางอยู่

อสิตเหลือบเห็นก็แค้นใจ หยิบรูปนั้นขึ้นมากระแทกกรอบรูปกับมุมโต๊ะจนกรอบรูปแตก เขาดึงรูปออกมา ฉีกรูปลลิตาออกจากรูปเขาแล้วฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ปาทิ้ง...อสิตหอบหายใจแค้นคั่ง แล้วนึกอะไรออกมาได้เปิดลิ้นชัก มีปืนของเขาวางอยู่

ลลิตาอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ นั่งทายาแผลถลอกที่เข่า
เสียงเคาะประตูดังขึ้น เสียงเด็กเสิร์ฟดังเข้ามา
“อาหารมาส่งคร้าบ!”
ลลิตาสลัดความคิด เดินไปหยิบกระเป๋าเงินแล้วเปิดประตู เด็กเสิร์ฟนำอาหารเข้ามา
“วางไว้ตรงนั้นแหละ”
เด็กเสิร์ฟวางอาหาร รับเงินแล้วออกไป ลลิตาเดินไปเก็บกระเป๋าเงินเห็นกระเป๋าสะพายที่โดนเชิดกรีดก็เสียดาย เธอถอนใจ หันกลับมา แต่แล้วต้องตกใจ เมื่ออสิตเข้ามาในห้อง ล้วงปืนออกมาจากกระเป๋า ลลิตามองอย่างตกใจ

กร้าวขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านไร่ทานตะวัน พร้อมเข็นรถชาติออกมาต้อนรับ กร้าวกับอนุชเข้ามาไหว้ชาติ
“มา ให้ป๋ากอดให้หายคิดถึงหน่อย”
อนุชไหว้เสร็จก็กอดชาติ
“มีคนหนุ่มคนสาวมาอยู่แล้วมันสดใสขึ้นเป็นกองเลยนะพร้อม”
พร้อมยิ้มรับ
“ค่ะ คุณชาติ”
กร้าวพูดขึ้น
“ไม่ต้องห่วงครับลุง คราวนี้อนุชจะอยู่ที่นี่จนกว่าลุงจะหายคิดถึง” เขามองอนุชอย่างมีนัยแฝง “และถึงแม้อยากจะร้องกลับก็คงไม่ได้กลับง่ายๆ”
ชาติได้ยินก็หวั่นใจ แอบเหลือบมองตากับพร้อม ขำขนกระเป๋าออกมาจากรถ
“มา ขำ ช่วยกัน”
พร้อมเข้าไปช่วยขำขนกระเป๋า กร้าวสั่งเสียงเข้ม
“ไม่ต้อง!”
พร้อมกับขำชะงัก
“ให้อนุชยกเข้าไป ป้าพร้อมช่วยไปเตรียมน้ำเย็นๆให้ผมดีกว่ามาร้อนๆ”
พร้อมอึกอัก
“แต่...”
กร้าวตวาดอนุช
“ยืนเฉยอยู่ทำไมอนุช ยกกระเป๋าเข้าบ้านไปสิ!”
อนุชไม่ตอบโต้ ผละออกจากชาติ จะไปยกกระเป๋า ชาติจับมือไว้แล้วหันไปหากร้าว
“เด็กก็มี ทำไมต้องให้นุชขนกระเป๋าเอง”
“ไม่เป็นไรค่ะป๋า นุชจัดการได้”
อนุชเข้าไปยกกระเป๋าลงจากรถ ขำจะช่วย
“ไม่เป็นไรจ้ะขำ พาป๋าเข้าบ้านเถอะ ข้างนอกแดดแรง”
อนุชยกกระเป๋าสัมภาระทั้งหมดลงจากรถ ลากบ้างสะพายบ้างขนคนเดียวเข้าไปในบ้าน ชาติมองหน้ากร้าว
“แกคิดจะทำอะไรอีก เจ้ากร้าว”
กร้าวหันมองชาติ หน้าเครียด ไม่ตอบ

อสิตนั่งมองปืนในมืออย่างเงียบเฉย ยิ่งเพิ่มความกดดันให้ลลิตาที่นั่งนิ่ง ไม่กล้าขยับเขยื้อน พยายามรวบรวมความกล้า
“สิต...”
อสิตตวาดลั่น
“เงียบ!”
ลลิตาสะดุ้งโหยง
“ฉันไม่อยากได้ยินคำแก้ตัวจากเธอ”
ลลิตารู้ว่าหากไม่ใช้มารยาต้องไม่รอดแน่ ตะกายเข้ามากอดขาเขา

อ่านละคร ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 13/4 วันที่ 15 มี.ค. 56

ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง บทประพันธ์ : บุษยมาส (จากเรื่องเดิม นางฟ้าซาตาน)
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง บทโทรทัศน์ : สิริกร
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง กำกับการแสดง : ธนะสิทธิ์ อริยสินวีรกุล
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง แนวละคร : เมโลดราม่า - โรแมนติก
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ผลิตโดย : บริษัท ดาราวิดีโอ จำกัด
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ออกอากาศ : เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager