@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 13/6 วันที่ 10 มี.ค. 56


อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 13/6 วันที่ 10 มี.ค. 56

ขุนเกิดถือถาดยาเข้ามาวางแล้วรีบเข้ามาดูนวล ขุนเกิดจำต้องจับตัวนวล นวลสะดุ้งตื่น และโผเข้ากอดขุนเกิด ตัวสั่นเหมือนลูกนก ขุนเกิดค่อยๆเอามือลูบหัวนวล
“แค่ฝันร้าย แม่นวล...แค่ฝันร้าย”
นวลหอบเหนื่อย รู้สึกถึงความผูกพันกับบางอย่างที่ยังไม่ชัดเจนในความทรงจำ

พระยาสุรินยืนอยู่หน้ากระท่อมเกลียว ลูกน้องถือคบไฟเตรียมเผา เกลียวและพ่อนั่งร้องไห้โฮไหว้ขอร้องอยู่

“อย่าเผาเรือนข้าเลยนะขอรับท่านพระยา”
“ข้าไหว้ล่ะ ข้ากับพ่อจะรีบหาอัฐมาใช้คืนให้ “
“แต่ข้าต้องการตอนนี้ 10 ชั่ง! ถ้าไม่มี..เผา”
ลูกน้องพุ่งเข้าไปจะเผา แต่เจอเท้าขุนพิทักษ์ถีบกระเด็น พระยาสุรินชี้หน้า



“เอ็งใช่ไหมที่หยามเกียรติข้าเมื่อวานนี้”
เกลียวรีบแทรก
“ท่านพระยาเจ้าคะ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดยะเจ้าคะ ชายผู้นี้ไม่ใช่...”
“ ใช่! ข้าทำข้าก็ต้องรับ เรื่องนี้พ่อเกลี้ยงกับเกลียวไม่เกี่ยว ถ้าท่านจะคิดบัญชีก็มาคิดเอากับข้า”
“กำแหงนัก พูดแบบนี้จะไม่มีเงาหัว” พระยาสุรินบอก
“ท่านเป็นถึงพระยา แต่ใช้อำนาจรังแกคนไม่มีทางสู้ ถือว่าเป็นบาปหนัก หยุดตอนนี้ยังไม่สาย หยุดสร้างบาปสร้างกรรมเถอะขอรับ”
พระยาสุรินโกรธมาก
“เอ็งกล้าดียังไงมาสั่งสอนข้า จับตัวมันไปให้หมด เผาบ้านมันให้วอด”
ลูกน้องพระยาสุรินล้อมทั้งสามไว้ และจุดไฟเผาบ้าน พ่อเกลียวทนดูไม่ได้เข้าไปแย่งคบไฟ ลูกน้องพระยาสุริน ผลักพ่อเกลียวล้มกลิ้งเข้าไปในกระท่อม ไฟลุกพรึ่บ! เกลียวร้องกรี๊ด!
พ่อออกมาจากกระท่อมไม่ได้ เกลียวพุ่งเข้าไปจะช่วยพ่อ แต่โดนลูกน้องจับไว้
“พ่อ”
ฝั่งขุนพิทักษ์บู๊กับลูกน้องพระยาสุรินที่มีมากกว่า ทำให้ขุนพิทักษ์สะบักสะบอมและถูกจับในที่สุด
พระยาสุรินชกหน้าขุนพิทักษ์
“ถ้าบาปกรรมมีจริงก็มาคิดบัญชีเอากับข้าสิโว้ย!”
ลูกน้องล็อกตัวเกลียวเข้ามาหา พระยาสุรินเข้าไปบีบหน้าเกลียว
“ยังไงเอ็งก็ต้องเป็นเมียข้า นังเกลียว ฮ่าๆๆ ลากตัวพวกมันกลับไป”
ขบวนของพระยาสุรินเดินไป ขุนพิทักษ์ถูกลากให้เดินตาม เกลียวหันมองพ่อแล้วร้องไห้สุดเสียง

ขุนพิทักษ์ถูกใส่โซ่ตรวนเยี่ยงทาส ลูกน้องพระยาสุรินถามชื่อจะลงทะเบียน
“ชื่ออะไร”
ขุนพิทักษ์นิ่งไม่ตอบ ลูกน้องที่เป็นคนคุมอยู่กระทุ้งถาม
“ตอบสิวะ”
“ข้าชื่อ...ทัด...ไอ้ทัด”
“ก็แค่เนี้ย”
ขุนพิทักษ์ถูกตีตราทาส ด้วยเล็กร้อนๆ นาบลงไปที่หัวไหล่
“ข้าจะไม่ยอมให้ชื่อข้าทำให้วงศ์ตระกูลของข้าต้องเสื่อมเสียเป็นอันขาด”
ขุนพิทักษ์กัดฟันแน่น

หลังขุนพิทักษ์ถูกตีตราทาสแล้วก็ถูกเฆี่ยน ถูกทรมาน ในอดีตที่ขุนพิทักษ์เคยเฆี่ยนชุ่ม
ภาพขุนพิทักษ์ถูกเลือกให้ลงไปแข่งมวย ขุนพิทักษ์ถูกรุมยำตีน ในอดีตขุนพิทักษ์เคยกระทืบสม
นวลช่วยขุนเกิดปรุงยา นวลทำอาหารให้ขุนเกิดชิม นวลสวดมนต์ ขุนเกิดมองนวลอย่างแสนรัก

รำพึงคลอดลูก ขุนไวดีใจอุ้มลูกของตัวเอง ในขณะที่รำพึงอุ้มอัฐที่อายุเกือบขวบ

พระยาสุรินขืนใจเกลียว เกลียวนั่งร้องไห้อยู่ข้างเตียง เกลียวเข้ามานั่งจับแขนขุนพิทักษ์ผ่านกรงขัง

ในห้องขัง ทาสนอนกันเรียงราย แต่ขุนพิทักษ์นั่งมองดวงจันทร์ที่อยู่ข้างนอก
ทาสคนหนึ่งถาม
“นั่งฝันอะไรวะไอ้ทัด ไม่นอนเก็บแรงไว้โดนกระทืบพรุ่งนี้หรือไง เอ็งมันยิ่งเป็นตัวโปรดของท่านพระยาสุรินซะด้วย เอ็งทนได้ยังไงวะ เป็นคนอื่นกระอักเลือดตายไปนานแล้ว”
“ข้าต้องมีชีวิตอยู่ ข้าจะต้องหลุดพ้นจากการเป็นทาส”
“เอ็งคิดว่าเอ็งจะได้หลุดไปจากนรกนี่เหรอ”
“ที่นี่ยังไม่ได้ครึ่งของนรกจริงๆหรอก ถ้าการที่ข้าต้องถูกทรมานอยู่ที่นี่เป็นการชดใช้กรรมที่ข้าเคยทำไว้ นับว่าฟ้ายังปราณีข้า มากกว่าอีกหลายคนที่ต้องชดใช้กรรมอยู่ในนรกนั้น”
“เพ้อไปแล้วโว้ย ไอ้ทัด นอนเหอะ”
ทาสล้มตัวลงนอนทิ้งให้ขุนพิทักษ์นั่งมองดวงจันทร์
“ข้าจะต้องหลุดไปจากที่นี่ สักวันข้าจะต้องตามหาเมียกับลูกข้าให้เจอ!”

๑๕ ปีผ่านไป ณ เรือนใหม่ของคุณพระไวที่มารับตำแหน่งเวลากลางวัน รำพึงยืนหันหลังมองอาณาบริเวณบ้านของตัวเองอยู่กลางสวน เสียงเรียกดังของอัฐขึ้นมา
“คุณแม่ครับ”
รำพึงหันมาในชุดสวยสมวัยยิ้มให้กับอัฐที่เดินมาหา
“ตาอัฐ!”
อัฐในชุดหล่อเดินเข้ามาหารำพึงด้วยใบหน้าหล่อละมุน แววตาของรำพึงที่มองอัฐเต็มไปด้วยความรักและความเอ็นดู รำพึงยื่นมือไปให้ลูกชาย อัฐเอื้อมมือเข้าไปคว้ามือแม่ไว้
“คุณแม่คิดถึงเรือนเก่าของเราใช่มั้ยครับ”
รำพึงมองตัวเรือนใหม่ที่ไม่คุ้นเคย
“นี่ถ้าคุณพ่อไม่ต้องมารับตำแหน่งใหม่ที่เมืองนี้ เราคงยังอยู่ที่เดิม ที่นั่นมีความทรงจำของแม่มากมาย แม่คงลืมไม่ได้ง่ายๆ”
รำพึงครุ่นคิดถึงเรื่องเก่า อัฐมองรำพึงอย่างสงสัย รำพึงเห็นสายตาของอัฐจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง
รำพึงเอื้อมมือไปลูบหน้าลูกชาย
“ไหนขอแม่ดูลูกชายให้เต็มตาหน่อย แต่งตัวซะหล่อแบบนี้ สาวที่ไหนเห็นเป็นต้องหลงเสน่ห์ลูกแม่แน่ๆ”
อัฐยิ้มสดใส มองรำพึงอย่างชื่นชม
“สาวที่ไหนก็สู้คุณแม่ของผมไม่ได้หรอกครับ”
“อย่ามาปากหวานอ้อนแม่หน่อยเลย”
อัฐหัวเราะสดใส รำพึงมองอย่างเอ็นดู
“ก็อ้อนได้แต่กับคุณแม่ล่ะครับ ขืนอ้อนกับคุณพ่อผมคงโดนเอ็ดว่าไม่รู้จักโตสักที”
รำพึงชะงัก รู้สึกว่าอัฐแอบเสียใจ
“คุณพ่อเข้มงวดเพราะอยากให้ลูกได้ดีนะตาอัฐ”
“ครับคุณแม่ อะไรที่ทำให้คุณพ่อภูมิใจในตัวผม ผมจะทำทุกอย่าง”
อัฐยิ้ม รำพึงลูบหัวลูกชาย
“ไปกันเถอะ เดี๋ยวคุณพ่อจะถามหา”
รำพึงจะพาอัฐเดินไป

“อ้อ...แล้วน้องล่ะตาอัฐ ระพีแต่งตัวเสร็จรึยัง”
๑๕ ปีผ่านไป ณ เรือนใหม่ของคุณพระไวที่มารับตำแหน่งเวลากลางวัน รำพึงยืนหันหลังมองอาณาบริเวณบ้านของตัวเองอยู่กลางสวน เสียงเรียกดังของอัฐขึ้นมา
“คุณแม่ครับ”
รำพึงหันมาในชุดสวยสมวัยยิ้มให้กับอัฐที่เดินมาหา
“ตาอัฐ!”
อัฐในชุดหล่อเดินเข้ามาหารำพึงด้วยใบหน้าหล่อละมุน แววตาของรำพึงที่มองอัฐเต็มไปด้วยความรักและความเอ็นดู รำพึงยื่นมือไปให้ลูกชาย อัฐเอื้อมมือเข้าไปคว้ามือแม่ไว้
“คุณแม่คิดถึงเรือนเก่าของเราใช่มั้ยครับ”
รำพึงมองตัวเรือนใหม่ที่ไม่คุ้นเคย
“นี่ถ้าคุณพ่อไม่ต้องมารับตำแหน่งใหม่ที่เมืองนี้ เราคงยังอยู่ที่เดิม ที่นั่นมีความทรงจำของแม่มากมาย แม่คงลืมไม่ได้ง่ายๆ”
รำพึงครุ่นคิดถึงเรื่องเก่า อัฐมองรำพึงอย่างสงสัย รำพึงเห็นสายตาของอัฐจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง
รำพึงเอื้อมมือไปลูบหน้าลูกชาย
“ไหนขอแม่ดูลูกชายให้เต็มตาหน่อย แต่งตัวซะหล่อแบบนี้ สาวที่ไหนเห็นเป็นต้องหลงเสน่ห์ลูกแม่แน่ๆ”
อัฐยิ้มสดใส มองรำพึงอย่างชื่นชม
“สาวที่ไหนก็สู้คุณแม่ของผมไม่ได้หรอกครับ”
“อย่ามาปากหวานอ้อนแม่หน่อยเลย”
อัฐหัวเราะสดใส รำพึงมองอย่างเอ็นดู
“ก็อ้อนได้แต่กับคุณแม่ล่ะครับ ขืนอ้อนกับคุณพ่อผมคงโดนเอ็ดว่าไม่รู้จักโตสักที”
รำพึงชะงัก รู้สึกว่าอัฐแอบเสียใจ
“คุณพ่อเข้มงวดเพราะอยากให้ลูกได้ดีนะตาอัฐ”
“ครับคุณแม่ อะไรที่ทำให้คุณพ่อภูมิใจในตัวผม ผมจะทำทุกอย่าง”
อัฐยิ้ม รำพึงลูบหัวลูกชาย
“ไปกันเถอะ เดี๋ยวคุณพ่อจะถามหา”
รำพึงจะพาอัฐเดินไป
“อ้อ...แล้วน้องล่ะตาอัฐ ระพีแต่งตัวเสร็จรึยัง”

12.3.2
ภายในห้องนอน ระพีหมุนตัวในชุดสวยอยู่หน้ากระจก จวงปรบมือชื่นชม
“คุณหนูระพีของจวงงามมากเจ้าค่ะ ลูกบ้านไหนก็ไม่สวยเท่าลูกบ้านนี้”
ระพียิ้มภูมิใจ
“จริงเหรอน้าจวง ระพีสวยใช่มั้ย”
“จริงสิเจ้าคะ โบราณท่านว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น คุณแม่งามยังไง คุณหนูระพีก็งามตามมาติดๆเจ้าค่ะ”
ระพียิ้มฝัน
“ไปกราบท่านเจ้าคุณสุริน ระพีก็จะได้เจอพี่เทิด ไม่รู้พี่เทิดจะจำระพีได้หรือเปล่า”
“จำได้สิเจ้าคะ น้าจวงเอาหัวเป็นประกัน...ตอนนั้นท่านเจ้าคุณสุริน พาคุณเทิดไปราชการที่เมืองเราตั้งสองปี คุณระพีกับคุณอัฐเป็นเพื่อนเล่นคุณเทิดมาตลอด ทำไมจะจำไม่ได้เจ้าคะ”
ระพีมีความหวัง
“ระพีก็จะทำให้พี่เทิดละสายตาจากระพีไม่ได้เลย คอยดู!”
ระพีหันไปแต่งตัวที่หน้ากระจกต่อ
จวงแอบมองและพูดคนเดียว
“เฮ้อ...ลูกไม้หล่นไม่ใกล้ต้นของจริง เรื่องผู้ชายล่ะก็ เหมือนกันทั้งแม่ทั้งลูก”
ระพีมองกระจกอย่างเชิดๆเริ่ดๆ

ภายในเรือนพระยาสุริน เทิดลุกขึ้นยืนต่อหน้าพ่อ
“ไม่เห็นมีอะไรน่าจำ ระพีก็แค่คนเคยรู้จัก”
“คุณพระไวกับครอบครัวเคยช่วยเหลือพ่อและดูแลเราเป็นอย่างดี พ่ออยากให้ลูกอยู่ต้อนรับเขา”
“ลูกไม่อยู่เจอหรอกครับ ลูกจะไปหาคุณน้อย”
พระยาสุรินมองดุ
“พ่อเทิด!”
เทิดชักสีหน้า
“ไปหาแม่น้อยวันไหนก็ได้แต่ไม่ใช่วันนี้ นี่เป็นคำสั่ง!”
“เจ้าคุณพ่อ”
เทิดลงนั่งอย่างหงุดหงิดใจ ที่ไม่อาจขัดใจพ่อได้

บริเวณโถงเรือนคุณพระเกิด ผู้หญิงคนหนึ่งนั่งร้อยมาลัย คุณน้อยรำอย่างอ่อนช้อย ยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าใสใส เสียงพิณพาทย์จบลง เสียงปรบมือดังขึ้น
“เก่งมาก”
นวลยิ้มอบอุ่นมองลูกสาว
น้อยยิ้มเดินไปหานวล น้อยเข้าไปกอดซบแม่
“น้อยเก่ง เพราะว่าน้อยเป็นลูกแม่นวลกับคุณพ่อไงคะ”
เสียงคุณพระเกิดดังขึ้นมา
“นึกว่าจะไม่คิดถึงพ่อซะแล้ว”
คุณพระเกิดเดินยิ้มปนหัวเราะมาแต่ไกล
“คุณพ่อกลับมาแล้ว!”
คุณน้อยผละออกมาจากอกนวล วิ่งไปหาพ่อ
“ไปครั้งนี้คุณพ่อได้สมุนไพรมาเยอะมั้ยคะ คุณพ่อจะสอนน้อยปรุงยาด้วยมั้ยคะ แล้วที่พระนครสวยมั้ยคะแล้วเมื่อไหร่คุณพ่อจะพาน้อยไปเที่ยวบ้าง”
นวลหัวเราะอย่างเอ็นดู
“แม่น้อยถามแบบนี้ คุณพ่อตอบไม่ทันหรอกลูก คุณพ่อเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ ให้คุณพ่อพักก่อนเถอะ”
“แหม...ก็น้อยคิดถึงคุณพ่อนี่คะคุณแม่”
“พ่อก็คิดถึงลูก และก็แม่ของลูกมาก”
ขุนเกิดส่งสายตาให้นวล นวลมองหน้าสามีได้แต่ยิ้มอ่อนๆ
“ดื่มน้ำมะตูมก่อนนะคะ ดิฉันต้มไว้เดี๋ยวให้เด็กเอามาให้”
นวลหันไปสั่งเด็ก
“ว่าแต่เราเถอะยัยน้อย ซ้อมรำไปถึงไหนแล้ว งานเรือนท่านเจ้าคุณสุรินจะถึงอีกไม่กี่วัน คงไม่ไปหกคะเมนเอากลางเวทีหรอกนะ”
น้อยแกล้งงอนๆ แต่อมยิ้ม
“ฝีมือระดับนี้รับรองไม่ทำให้คุณพ่อผิดหวังแน่ค่ะ”
คุณพระเกิดยิ้มตาม
“แล้วพ่อจะคอยดู”
คุณพระเกิดลูบหัวลูกสาวอย่างเอ็นดู
“แต่น้อยอยากให้แม่นวลไปด้วยจัง น้อยไม่รู้จะคุยกับใคร ยิ่งต้องเจอกับคุณเทิดด้วย น้อยยิ่งไม่อยากอยู่คนเดียว แม่นวลจ๋าไปกับน้อยเถอะนะ”
นวลอึกอักต่อการรบเร้าของน้อย คุณพระเกิดออกตัวเข้าช่วย
“แม่น้อยอย่าทำให้แม่เขาเป็นกังวลสิลูก เรื่องงานสังคม แม่เขาไม่ค่อยถนัด”
“มีคุณพ่อไปด้วย พ่อเทิดคงต้องเกรงใจ ไม่ต้องห่วงนะลูก”
“ค่ะแม่”
น้อยกอดนวล คุณพระเกิดมองลูกเมียอย่างแสนรัก

ที่ด้านหลังเรือนพระยาสุริน เทิดถีบโครม! ไปที่กระบุงข้าวจนข้าวกระจาย นายทัดที่กำลังขนกระสอบข้าวมาเก็บ หันขวับมอง
“โธ่เว้ย...แทนที่จะได้ไปหาคุณน้อยกลับต้องมาติดแหง็กอยู่แบบนี้”
เทิดเห็นทัดมองอยู่
“มองหน้าข้า มีปัญหาเหรอ...ไอ้ทัด”
ทัดเมินหน้าหนี เทิดยิ่งยัวะ
“เอ็งกล้าดียังไงมาเมินใส่ข้า ไอ้ทัด”
“คุณเทิดอารมณ์ไม่ดีก็ไม่น่าต้องทำให้ข้าวของเสียหายนะขอรับ ของพวกนี้จะต้องใช้ในวันงาน”
“ไม่อยากให้ข้าทำลายข้าวของ งั้นข้าจะกระทืบเอ็งแทน...เฮ้ย จับมัน”
เทิดสั่งคนจับทัด คนงานแถวนั้นจำต้องจับ เทิดเตะเข้าที่ท้องทัด
“คนงานอย่างเอ็งไม่มีสิทธิ์มาสั่งสอนข้า”
เทิดต่อยเข้าที่ปากทัด 2 หมัด เกลียวเข้ามาเห็นและสั่งเสียงเฉียบ
“หยุดนะคุณเทิด”
เทิดหันขวับไปมอง เกลียวตากร้าวเข้ามา
“นายทัดทำผิดอะไร ถึงต้องลงโทษกันรุนแรงแบบนี้”
“อย่าสะเออะ...คนอย่างข้าไม่จำเป็นต้องตอบคำถามเมียทาสของเจ้าคุณพ่อ”

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 13/6 วันที่ 10 มี.ค. 56

ละครเรื่อง บ่วงบาป บทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละครเรื่อง บ่วงบาป บทโทรทัศน์ : พอวาสน์-นันทพร
ละครเรื่อง บ่วงบาป กำกับการแสดง : กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง บ่วงบาป แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง บ่วงบาป ผลิต : บ้านละคอนโดย อรพรรณ วัชรพล
ละครเรื่อง บ่วงบาป ออกอากาศทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่ม กุมภาพันธ์ ทางไทยทีวีสีช่อง3
ที่มา manager