@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 14/2 วันที่ 4 มี.ค. 56


อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 14/2 วันที่ 4 มี.ค. 56

ตันหยงเริ่มทำงานปูเตียงให้คนไข้
ตันหยงพับผ้าก๊อสแล้วเตรียมอุปกรณ์เป็นเซ็ตสำหรับทำแผล
ตันหยงเดินพาคนป่วยเข้ามาในห้องรักษาตัว หนึ่งฤทัยเดินมารับคนไข้
ปฐวีเดินตรวจคนไข้กับหนึ่งฤทัยผ่านหน้าตันหยงไป ปฐวีไม่หันมามองหน้าตันหยงแม้แต่น้อย ตันหยงแอบมองปฐวีอย่างเศร้าๆ

หนึ่งฤทัยเดินนำตันหยงเข้ามาที่พัก
“คืนนี้คุณพักที่นี่แหละค่ะ ตามสบายเลย” หนึ่งฤทัยบอก


“ขอบคุณค่ะ”
“ที่นี่มีเจ้าหน้าที่ดูแล ถ้าต้องการอะไรก็บอกเค้าได้นะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พรุ่งนี้หยงก็จะกลับแล้ว”
“กลับพรุ่งนี้หรือคะ คุณจะกลับไปทำไม หรือว่าแต่งงาน”
ตันหยงส่ายหน้า “เปล่าหรอกค่ะ”
หนึ่งฤทัยมองหน้าตันหยงนิ่ง

ปฐวีมองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นแสงไฟจากที่พักของตันหยงอยู่ไกลๆ ปฐวีเดินกลับเข้ามาที่เตียงแล้วล้มตัวลงนอนคิด
นาวินหอบข้าวของมาที่รีสอร์ท สุดนภามองไปรอบๆแล้วโวยวาย
“อะไรกัน พักที่นี่น่ะหรือ กับคุณสองคนเนี่ยนะ”
“จะเป็นไรไป บ้านตั้งใหญ่โต มันเหลือหลังเดียวจะให้ทำไงล่ะ” นาวินบอก
“บ้าหรือ ใหญ่แล้วไง มีห้องนอนห้องเดียว นี่วางแผนไว้หรือเปล่า”
นาวินทำหน้าใสซื่อ “เปล๊า ก็เจ้าหน้าที่บอกไม่ได้ยินหรือ เอาน่าก็แบ่งกันนอนก็ได้ ผมนอนไม่ดิ้นไม่กรนหรอก ถ้าคุณจะแอบกอดผมแทนหมอนข้างก็ได้นะ ผมยอมขาดทุน”
“ฝันไปเหอะ นายนอนนอกห้องโน่น”
สุดนภาคว้ากระเป๋าแล้วเดินเข้าห้องปิดประตู นาวินเดินไปเกาะประตูแล้วโวยวาย
“อ้าว เฮ้ย อย่าทำแบบนี้นะ เปิดก่อน”

พระอาทิตย์ยามเช้าโผล่ขึ้น ไก่ขันไปทั่วบริเวณ คนไข้มาเข้าคิวรอที่หน้าอนามัย ตันหยงช่วยพยาบาลจัดคิวคนไข้ ปฐวีกับหนึ่งฤทัยช่วยกันรักษาคนไข้
“นอนพักดูอาการอีกสักวันนะครับ ถ้าไม่ปวดหัวหรือมีอาการแทรกซ้อนก็กลับบ้านได้” ปฐวีบอกคนไข้
ตันหยงยกอุปกรณ์การรักษาไปวางไว้ใกล้ๆปฐวีกับหนึ่งฤทัย เธอมองทั้งคู่แล้วค่อยๆ เดินเลี่ยงออกมา ปฐวีกับหนึ่งฤทัยนั่งอ่านแฟ้ม หนึ่งฤทัยเงยหน้ามองตันหยงนั่งทำงานเงียบๆหงอยๆ
“วีคะ เราทำแบบนี้จะดีหรือ แล้วคุณตันหยงจะรู้สึกยังไงคะ” หนึ่งฤทัยถามปฐวี
ปฐวีหันไปมองตันหยงก็เห็นตันหยงหน้าเศร้า
ปฐวีนิ่งไม่ตอบแต่ยังคงทำงานต่อไป หนึ่งฤทัยมองปฐวีสลับกับตันหยงแล้วถอนหายใจ

คนไข้หมดจนเหลือแต่ปฐวีกับคนไข้เพียงหนึ่งคน ตันหยงมองปฐวีจากด้านข้าง หนึ่งฤทัยเดินออกมาจากอีกมุม
“คุณตันหยงจะกลับรึยังคะ ไปพร้อมหนึ่งเลยไหมคะ”
ตันหยงคิด “ค่ะ หยงมีเรื่องจะปรึกษาหมอหนึ่งด้วยค่ะ”
ตันหยงชำเลืองปฐวี หนึ่งฤทัยมองหน้าตันหยง แล้วทั้งคู่ก็เดินออกไป

ตันหยงเดินคุยกับหนึ่งฤทัย
“คุณตันหยงมีอะไรหรือคะ”
“หยงอยากฝากลาหมอวีด้วย หยงจะกลับกรุงเทพค่ะ”
หนึ่งฤทัยชะงัก “ทำไมจะรีบกลับล่ะคะ อยู่ช่วยกันก่อนสิ”
“หยงคิดว่า หยงไม่เหมาะหรอกค่ะ คุณหมอหนึ่งต่างหากที่เหมาะกับหมอวีมากกว่า”
หนึ่งฤทัยหยุดเดินแล้วมอง “อะไรทำให้คุณคิดแบบนั้น”
ตันหยงนิ่งไม่ตอบ
หนึ่งฤทัยแอบถอนหายใจ “เอาเป็นว่าคุณหยงอย่าเพิ่งไปเลยนะคะ หนึ่งขอร้อง ยังไงก็ต้องอยู่ช่วยกันก่อน”
หนึ่งพูดจบก็เดินไปทันที ตันหยงมองตามอย่างงงๆ

ตกกลางคืน ปฐวีนั่งหน้ากองไฟที่อยู่ใกล้บ้านพักตันหยง ตันหยงยืนเหม่ออยู่ที่หน้าต่างบ้านพัก ปฐวีหันมองมาทางห้องตันหยงแล้วก็ถอนหายใจก่อนจะหันกลับไป
ตันหยงเดินไปเปิดประตูห้องออกมาจนเห็นปฐวี ตันหยงยืนแอบมอง ปฐวีหันกลับมาจนสบตากัน ตันหยงตัดสินใจเดินกลับเข้าห้องไปยืนพิงประตู
“เฮ้อ...ชั้นจะทำยังไงต่อไปล่ะทีนี้”
ปฐวีนั่งนิ่งคิดแล้วก็ยิ้มเศร้า

เช้าวันใหม่ ปฐวียืนส่งหนึ่งฤทัยขึ้นรถ
“รักษาสุขภาพด้วยนะคะ อย่าหักโหมนักเดี๋ยวหมอจะป่วยซะเอง” หนึ่งฤทัยบอก
“ผมคงคิดถึงหนึ่ง” ปฐวีบอก
“วีพูดให้หนึ่งดีใจใช่มั้ยคะ”
“เปล่าครับ ผมพูดจากใจ”

หนึ่งฤทัยมองหน้าปฐวีแล้วยิ้ม
“วีน่ารักกับหนึ่งเสมอเลย”
ปฐวียิ้ม “ก็หนึ่งเป็นเพื่อนที่ดีของผม แล้วเจอกันที่กรุงเทพนะครับ”
หนึ่งฤทัยยิ้มเศร้า “ถ้าวีกลับถึงกรุงเทพเมื่อไหร่ เราต้องได้เจอกันแน่นอนอยู่แล้ว อย่าลืมใช้โอกาสนี้ให้ดีที่สุดนะคะ”
“ขอบคุณหนึ่ง ที่เข้าใจผม”
ทั้งสองมองอย่างเข้าใจกัน หนึ่งฤทัยกางมือเข้ากอดปฐวี ปฐวีกอดตอบแบบเพื่อนที่เข้าใจกัน
“หนึ่งไปนะคะ”
“เดินทางปลอดภัยครับ”
หนึ่งฤทัยเดินขึ้นรถไป รถแล่นออก ปฐวียืนมองจนหนึ่งฤทัยลับตา ปฐวีนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตระหว่างเขากับหนึ่งฤทัยแล้วก็ยิ้มอย่างมีความสุข

ปฐวีนึกถึงเหตุการณ์ที่หนึ่งฤทัยนั่งคุยกับเขาที่มุมผิงไฟตอนกลางคืน
“หนึ่งทราบข่าวจากคุณพิราม ว่าเค้ากำลังจะแต่งงาน” หนึ่งฤทัยบอก
ปฐวีมองหน้าหนึ่งฤทัยก่อนหลบตา
“วีเศร้าเรื่องนี้ใช่ไหมคะ แล้วที่วีหนีมาที่นี่ ก็เพราะเรื่องนี้ใช่ไหมคะ”
“ผมไม่ได้หนีมานะหนึ่ง ผมอยากมาจริงๆ”
“หนึ่งเข้าใจผิดเอง ที่พูดกับคุณตันหยงไป ว่าขอให้คืนวีกลับมา”
ปฐวีหันมองอย่างงุนงง
“หนึ่งเข้าใจผิดว่าวี จะหันมารักหนึ่งได้ แต่...มันไม่มีวันใช่ไหมคะ”
ปฐวีก้มหน้า “หนึ่ง ผมขอโทษ”
“วีไม่ผิดหรอกค่ะ หนึ่งผิดเอง ที่ไม่สามารถเอาชนะใจวีได้หนึ่งรู้ ว่าวีรักหนึ่งแค่เพื่อน ต่อไปนี้ หนึ่งจะมองวีแบบเพื่อน และหนึ่งจะเป็นเพื่อนที่ดีของวีตลอดไป หนึ่งสัญญา”
แล้วทั้งคู่ก็กอดกัน

ปฐวีทำงานโดยมีพยาบาลเป็นผู้ช่วยรักษาคนไข้ ตันหยงเดินถืออุปกรณ์การแพทย์เดินผ่านปฐวีไปแล้ว ตันหยงก็ถอยหลังกลับมามองอย่างงงๆ
“หมอหนึ่งหายไปไหนเนี่ย” ตันหยงงง
ปฐวีเห็นตันหยงยืนมองอยู่ก็เรียก
“เข้ามาช่วยผมหน่อยสิ เร็วเข้า”
ตันหยงรีบเข้าไปช่วยปฐวีด้วยการหยิบส่งเครื่องมือ ปฐวีรักษาคนไข้ ตันหยงคอยช่วยหยิบจับเครื่องมือ
เวลาผ่านไปจนถึงช่วงพัก
“พักทานข้าวก่อนเถอะค่ะหมอ เดี๋ยวตรงนี้ดิชั้นจัดการเอง” พยาบาลบอก
“ครับ” ปฐวีพูดกับตันหยง “ไปทานข้าวกัน”
“ค่ะ เอ่อ แล้วหมอหนึ่งไปไหนล่ะคะ”
ปฐวีไม่ตอบแต่เดินนำตันหยงออกไป ตันหยงเดินตามไปอย่างจ๋อยๆ

ปฐวีกับตันหยงนั่งกินอาหารเงียบๆ ปฐวีนั่งกินเฉยๆไม่พูดไม่จา ตันหยงอึดอัด
“ทำไมไม่ทาน อาหารไม่อร่อยหรือ” ปฐวีถาม
“เปล่าหรอกค่ะ เพียงแต่...”
“รีบๆทานเข้าเถอะ คนไข้รอรักษาอีกเยอะ”
ปฐวีก้มลงกินอาหารต่อ ตันหยงแอบมองปฐวีเหมือนอยากจะพูดด้วย ปฐวีกินอาหารจนเสร็จแล้วลุกขึ้น ตันหยงทำท่าจะเรียก แต่ปฐวีไม่สนใจแล้วเดินไปทันที ตันหยงมองตาค้าง

สุดนภากับนาวินนั่งบนเก้าอี้จิบเครื่องดื่มอย่างสบายอารมณ์อยู่ข้างลำธารที่รีสอร์ท
“นี่เราจะไม่ไปดูสองคนนั่นหน่อยหรือ” สุดนภาถาม
“ไปทำไม มันไม่ใช่เรื่องของเราซะหน่อย” นาวินบอก
“แต่ชั้นเป็นห่วงเพื่อนนี่นา”
“เป็นห่วงเรื่องอะไร ผมรับรองแผนผมไม่มีพลาด”
สุดนภาสำลัก “ขี้โม้จริงๆ จะว่าไป ชั้นทึ่งคุณจริงๆ คุณนี่มัน...ร้ายกาจ”
“จริงๆคุณจะว่าผมไร้สาระใช่มั้ย”
สุดนภานิ่งไปนิดนึง “ถ้าบอกว่าใช่คุณจะโกรธมั้ย”
นาวินขำ “แรงไปมั๊ยเนี่ย..” นาวินพูดจริงจัง “มันก็เหมือนการเรียนรู้ของเด็กๆนั่นแหละเด็กๆเรียนรู้จากการเล่น”
สุดนภางง “เหมือนกันตรงไหนเนี่ย”
“เหมือนสิ สองคนนั่นก็กำลังเรียนรู้ จากประสบการณ์ชีวิตไง ทุกอย่างต้องพบเอง เจอเองถึงจะรู้ว่า นี่แหละมันคือชีวิตจริงๆ”
“ชั้นเริ่มไม่แน่ใจแล้วนะว่าคุณเก่งเกิน หรือชั้นฉลาดน้อยกันแน่ ที่พูดมาทั้งหมดเนี่ย ฟังไม่รู้เรื่องซักคำ”
“นี่คุณจะหาว่าผมเพ้อเจ้อใช่มั้ย งอนนะเนี่ย”
“โอ๋ ไม่เอาน่า อย่างอนนะ เดี๋ยวเลี้ยงขนม”
“ไม่ยอมหรอก ต้องหอมเค้าก่อน เค้าถึงจะยิ้มได้”
“บ้า หน้าไม่อาย”
นาวินทำงอน สุดนภาหมั่นไส้จึงผลักนาวินจนตกเก้าอี้ไป
นาวินโวยวาย “จะโหดไปไหนเนี่ยแม่คู๊ณ...”
สุดนภาทำไม่รู้ไม่ชี้

คนไข้คนสุดท้ายยกมือไหว้ปฐวีกับพยาบาลก่อนจะเดินออกจากห้องรักษาไป ตันหยงเก็บข้าวของตรงหน้าแต่ในตาแอบมองปฐวีอย่างสังเกต
“วันนี้คนไข้หมดเร็ว เชิญคุณหมอกลับไปพักก่อนดีกว่าค่ะ” พยาบาลบอก
“ก็ดีเหมือนกันครับ ผมไปก่อนนะ”
ปฐวีเดินไปแบบไม่สนใจตันหยง ตันหยงมองค้าง เธอรีบเก็บของแล้ววิ่งตามปฐวีไป

ปฐวีเดินไปตามทางเดิน ตันหยงรีบวิ่งตามมา
ตันหยงตะโกนเรียก “น้าวีคะ...น้าวี รอก่อน”
ปฐวีชะงักแล้วค่อยๆหันมามองตันหยงนิ่ง ตันหยงอึดอัด
“หยุดเรียกผมว่าน้าวีซะที ผมไม่ใช่น้าวีของคุณ” ปฐวีบอก
ตันหยงจ๋อย
ปฐวีถอนหายใจ “คุณมีอะไร หรืออยากมาบอกลาผม”
“ไม่ใช่นะคะ หยงมาที่นี่ เพื่อมาพบคุณ หยงอยากคุยกับคุณค่ะ”
“คุยเรื่องอะไร เรายังต้องคุยอะไรกันอีก”

อ่านละคร พรพรหมอลเวง ตอนที่ 14/2 วันที่ 4 มี.ค. 56

พรพรหมอลเวง บทประพันธ์ : กิ่งฉัตร
พรพรหมอลเวง บทโทรทัศน์โดย : วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
พรพรหมอลเวง กำกับการแสดงโดย : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้
พรพรหมอลเวง ผลิตโดย : บ. เวฟมีเดีย
พรพรหมอลเวงออกอากาศ ทุกวันศุกร์ - เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไททีวีสีช่อง 3
พรพรหมอลเวง เริ่มออกอากาศตอนแรก ในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ 56
ที่มา manager