@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนอวสาน วันที่ 19 มี.ค. 56


อ่านละคร บ่วงบาป ตอนอวสาน วันที่ 19 มี.ค. 56

“จำข้าได้แล้วเหรอ คุณนวล! ไม่สิ...ข้าต้องเรียกเอ็งว่า นังชุ่ม นังทาสชั้นต่ำ!”
“รำพึง ตาอัฐอยู่ไหน เจ้าทำอะไรลูกพี่”
“น้องก็แค่สั่งสอนมันให้รู้ผิดรู้ชอบ โทษฐานที่มันเห็นสวะอย่างนังชุ่มดีกว่าน้อง!”
“คุณรำพึง...ปล่อยลูกข้าเถอะ ท่านอยากได้อะไร ข้ายอมทุกอย่าง”
“โถๆ แม่ชุ่มผู้แสนดี”
รำพึงหันไปพูดกับทัด
“ได้...ถ้าอยากช่วยลูกกันนัก น้องก็จะให้โอกาสคุณพี่กับนังชุ่มได้ทำหน้าที่พ่อแม่บังเกิดเกล้าแลกกับชีวิตลูกชายของพวกแก”

ทัดกับนวลใจเต้นไม่เป็นระส่ำ รำพึงหัวเราะอย่างสะใจ
ทางเดินในป่า คุณพระไวล้มเลือดที่ไหล่และท้องทะลัก อยู่ในสภาพหนักเอาการ


“รำพึง...อย่า...”
จังหวะนั้น คุณพระเกิดเข้ามาพบคุณพระไวพอดี
“คุณพระ!”
คุณพระไวรวบรวมแรงทั้งหมดที่มี
“รีบไปช่วยพวกเขา”
“เกิดอะไรขึ้น”
“รำพึงจะฆ่าทุกคน เราต้องรีบไปหยุดรำพึง!”
คุณพระเกิดหิ้วปีกคุณพระไว พากันไปอย่างทุลักทุเล

อัฐสลบถูกมัดไว้ที่เสาโดยมีกองฟางรายล้อมอยู่รอบตัว อัฐฟื้นขึ้นมาก็พยายามดิ้นรน เสียงของนวลดังขึ้น อัฐหันขวับไปมอง
“อัฐลูกแม่”
ทัดกับนวลโดนโจรสองคนล็อกแขนคุมตัวอยู่
“พ่อ,แม่ชุ่ม”
“เรียกแต่คนอื่น ทำไมไม่เรียกแม่รำพึง แบบนี้มันอกตัญญูชัดๆ!”
รำพึงเดินเข้าไปหาคบไฟที่ปักอยู่ ทัดกับนวลเห็นลูกจะถูกเผาสดยิ่งร้อนรน
“รำพึง อย่าทำอะไรตาอัฐ พี่ขอร้อง เอาชีวิตพี่ไปแทน”
“ความรู้สึกที่มีคนรักยอมตายแทนเรามันน่าประทับใจจริงๆ ถ้าคุณพี่รักและยอมตายแทนน้องบ้าง คุณพี่คงไม่ต้องมาเจอชะตากรรมแบบนี้”
“คุณรำพึง ท่านโกรธเกลียดข้าก็ทำข้าเถอะ อย่าเอาลูกข้ามาเกี่ยวด้วย ท่านเลี้ยงตาอัฐมา ท่านไม่รักตาอัฐเหรอ”
“ก็เพราะข้ารักมันน่ะสิ ข้าถึงต้องทำแบบนี้ ข้าจะไม่มีวันให้ตาอัฐไปรักคนอื่น รำพึงคือแม่คนเดียวของตาอัฐ ไม่ใช่เอ็ง นังชุ่ม!”
นวลร้องไห้ตัวโยน

คุณพระเกิดประคองคุณพระไว รีบจ้ำเดินอย่างไม่คิดชีวิต
“รำพึง..หยุดสร้างบาปกรรม หยุดเสียทีเถอะ!”


รำพึงมองคบไฟที่ลุกโชติช่วงและหันมองอัฐตาวาว
นวลร้องไห้ใจจะขาด
“คุณรำพึง!ได้โปรด อย่าทำลูกข้า”
“เอาชีวิตพี่ไปเถอะรำพึง”
“คุณแม่ครับ ชีวิตของผมเป็นหนี้บุญคุณของคุณแม่ ถ้าชีวิตของผมจะทดแทนทุกอย่างที่คุณแม่ต้องการได้..ก็ฆ่าผมเถอะครับ”
รำพึงน้ำตาไหล ใจอ่อนวูบ แต่รีบฮึดขึ้นมา
“พอที! อย่ามาทำเป็นคนดีเหมือนแม่แก ฉันจะไม่ใจอ่อนให้ใครอีกเป็นอันขาด โลกนี้ไม่มีใครรักฉันจริง

สักคน พวกแกทุกคนหลอกฉัน พวกแกหลอกฉัน!”
รำพึงสติเริ่มหลุดแล้ว

“บาปทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะพี่ ให้พี่ได้ชดใช้บาปกรรมนั้นเถอะรำพึง อย่าทำร้ายคนอื่นอีกเลย”
รำพึงหัวเราะใส่
“คุณพี่ได้ชดใช้แน่”
รำพึงคว้ากริชไปยัดใส่มือนวล
“นังชุ่ม เอ็งต้องใช้กริชนี้แทงหัวใจของคุณพี่!”
นวลช็อกมือไม้สั่น
“ไม่ ข้าทำไม่ได้”
“เลือกเอาว่าระหว่างผัว กับ ลูก เอ็งจะเลือกใคร”
รำพึงเดินไปคว้าคบไฟ
“ถ้าเอ็งไม่ทำ ข้าจะเผาตาอัฐให้เอ็งดูเดี๋ยวนี้”
“แม่ชุ่ม อย่าทำแบบนั้น ผมยอมตาย!”
ทัดสั่ง
“ชุ่ม แทงหัวใจพี่ซะ เราจะปล่อยให้ลูกตายไม่ได้”
นวลส่ายหัวไม่รู้จะทำยังไงดี
“ท่านขุน...ข้าฆ่าท่านไม่ได้ ข้าทำไม่ได้”
“ชุ่ม เราผ่านความตายมานับไม่ถ้วน แต่ความตายก็ไม่เคยพรากหัวใจของเราให้แยกจากกัน ชีวิตนี้ของพี่มันคุ้มเหลือเกินแล้ว ที่พี่มีเมียอย่างเจ้าและมีลูกอย่างตาอัฐ เพียงเท่านี้..พี่ก็ตายตาหลับ ... ฆ่าพี่ซะ! ให้หัวใจพี่มันหยุดเต้นด้วยมือของเจ้า”
นวลร้องไห้โฮ
“ท่านขุน!”
รำพึงจ่อไฟเข้าไปใกล้กองฟาง ทุกทีๆ
“ฆ่าเดี๋ยวนี้! หัวใจของคุณพี่จะได้รับรู้ความเจ็บปวดเหมือนที่น้องเจ็บ!”
รำพึงพูดแล้วก็น้ำตาไหล นวลร้องไห้แทบเป็นสายเลือด โจรผลักทัดลงกับพื้น และโจรสองคนเดินห่างออกไป ทัดหันมองหน้าอัฐเป็นครั้งสุดท้าย
“พ่อขอใช้ชีวิตของพ่อ...แลกกับลมหายใจของลูก”
อัฐตะโกนสุดเสียง
“ไม่!”
ทันใดนั้น ทัดจับมือนวลที่ถือกริช แทงเข้าที่หัวใจตัวเอง นวลกรีดร้องสุดเสียง!
“ไม่!”

“พ่อ”
ทัดดึงกริชออกจากอกก่อนทรุดฮวบลง นวลเข้าประคองทัด รำพึงหัวเราะอย่างสะใจเหมือนคนเสียสติ

รำพึงโยนคบไฟลงบนกองฟาง พรึ่บ!
“ดี! ตายกันซะให้หมด”
ไฟลุกอย่างรวดเร็วลามใกล้อัฐเข้าไปทุกที
“ตาอัฐ!”
นวลพุ่งเข้าไปจะช่วยอัฐ แต่โดนรำพึงกระชากหัวเอาไว้
“ไม่ต้องรีบตายหรอกนังชุ่ม ดูความหายนะของลูกกับผัวเอ็งให้เต็มตาซะก่อน!”
นวลสู้สุดชีวิตแต่รำพึงก็ยังจิกหัวแน่น

ที่มุมหนึ่งคุณพระเกิดพาคุณพระไวเข้ามา
“หยุดนะรำพึง..หยุด!”
“แม่นวล!”
รำพึงหันขวับไปมอง
นวลบอกกับคุณพระเกิด
“ช่วยอัฐด้วย!”
คุณพระเกิดปล่อยคุณพระไว ก่อนลุยกองไฟเข้าไปช่วยอัฐ ไฟลุกลามมากขึ้น ทางฝั่งนวลกับรำพึงยังยื้อกันอยู่
“ไม่มีวันที่แกจะหยุดความแค้นของฉันได้หรอกนังชุ่ม!”
คุณพระไวตะเกียกตะกายเข้าไปหยุดรำพึง แต่จังหวะนั้นนวลฮึดสู้ ผลักรำพึงเข้าไปในกองไฟ! รำพึงกรีดเสียงร้องดัง คุณพระไวช็อก
“รำพึง! ไม่...”
รำพึงดิ้นรนอยู่ในกองไฟที่ลุกท่วม คุณพระไวรวมกำลังจะเข้าไปช่วยรำพึง แต่ไฟโหมกระหน่ำ คุณพระไวไม่สามารถเข้าไปช่วยรำพึงได้ คุณพระเกิดลากอัฐออกมาจากกองไฟได้สำเร็จ นวลรีบเข้าไปดูทัด น้ำตานองหน้า คุณพระไวน้ำตาไหล ที่เห็นรำพึงถูกเผาอยู่ตรงหน้า

ที่เรือนคุณพระเกิด ทัดหน้าซีดเผือด คุณพระเกิดทำการรักษา นวล น้อย อัฐรอดูอาการของด้วยความเป็นห่วง
“แม่ครับ พ่อจะไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับ”
“พ่อของลูกเป็นคนเข้มแข็ง พ่อจะต้องอยู่กับเรา”
นวล น้อย อัฐกอดกันกลม คุณพระเกิดรักษาอย่างขมักเขม้น สีหน้าทัดที่กำลังสู้กับความตาย

ตอนเช้า ซากไฟไหม้ดำเกรียมไปทั่วบริเวณ คุณพระไวซึ่งมีผ้าพันแขนและท้องอาการยังเจ็บอยู่มาก คุณพระไวเดินหารำพึงด้วยความร้อนใจ เพราะคุณพระเกิดแจ้งเรื่องให้คุณพระไวที่ยังเจ็บอยู่ได้รับรู้
“ถึงจะโดนเผาก็ต้องมีซากไหม้เกรียม แต่นี่ไม่มีศพรำพึงในบริเวณนั้น”

ที่กลางป่า
“ น้องรำพึงยังอยู่กับพี่ น้องยังไม่ตาย พี่ต้องหาน้องให้เจอ”

คุณพระไวยังมีความหวัง
ที่ตลาด คุณพระไวออกตามหารำพึง

ภายในเรือนคุณพระเกิด อัฐนอนเฝ้าทัด อัฐเช็ดตัวให้ทัด
ห้องระพีในเรือนคุณพระไว คุณพระไวป้อนข้าวให้ลูกสาว
ที่ห้องทัด นวลห่มผ้าให้อัฐที่นอนเฝ้าทัด
น้อยจัดดอกไม้ในห้องทัด อัฐกับน้อยยิ้มให้กัน
ในป่า คุณพระไวสภาพโทรมมองขึ้นไปบนฟ้าแสงแดดเข้าตา คุณพระไวปาดเหงื่อแต่ยังคงตามหา
รำพึงต่อไป

ที่ห้องทัดบนเรือนคุณพระเกิด อัฐจับมือทัดอยู่ มือทัดขยับ อัฐรู้สึกตัวตื่น เห็นทัดลืมตา อัฐตะโกนเรียกทุกคน นวลน้ำตาซึมเข้ามาหาทัด
“ข้าเชื่อว่าท่านต้องกลับมา!”
“ขอบคุณนะครับพ่อ..ที่ทำเพื่อผม”
ทัดเอื้อมมือไปจับหน้าลูก อีกมือหนึ่งจับมือนวลอย่างสุดรัก
ที่หน้าห้อง คุณพระเกิดมองยิ้มด้วยความเข้าใจ

เวลากลางคืน ในห้องเก่าซอมซ่อ เทิดในชุดมอซอ นั่งมองรูปพระยาสุรินที่เคยเป็นใหญ่ เขามองสภาพตัวเอง
“ทำไมเจ้าคุณพ่อทิ้งผมไปแบบนี้ ชีวิตผมไม่มีใครนอกจากพ่อ แล้วผมจะอยู่ได้ยังไง”
เทิดน้ำตาไหลซุกหน้าลงไปกับเข่าที่คู้เข้าหาตัว สะอื้นไห้จนตัวโยน สภาพชีวิตที่ล่มสลายของเทิด กรรมของผู้เป็นพ่อที่ทิ้งไว้ให้ลูกชายต้องเผชิญในโลกที่เขาไม่เคยยืนด้วยขาของตัวเอง ต้องจบด้วยความอ่อนแอที่ไม่อาจลุกขึ้นสู้

ภายในห้องนอน คุณพระเกิดและน้อยมาดูอาการของคุณพระไวที่ป่วยเพราะตรากตรำ
“ขอบคุณคุณพระมากที่มีน้ำใจมาดูผม”
“คุณพระต้องพักบ้างนะครับ”
“ผมพักไม่ได้ ถ้าผมยังตามหารำพึงไม่พบ”
เสียงของระพีร้องกรี๊ด! เสียงดัง
“ระพี!”
ทั้งหมดพุ่งไปที่ห้องของระพีทันที

ภายในห้อง ระพีร้องไห้กำลังกรี๊ดอาละวาดอยู่
“ออกไป ไอ้ผีบ้า ออกไป!”
คุณพระไวเข้ามารวบตัวไว้ให้สงบ
ระพีสงบลง
“พ่อ…”
ระพีเปลี่ยนจากหน้าเศร้าเป็นหัวเราะ คุณพระไวมองลูกสาวด้วยแววตาเศร้าจับใจ
คุณพระเกิดและน้อยมองหน้ากันก่อนตัดสินพูด
“ผมอยากรับระพีไปดูแลระหว่างที่คุณพระตามหาคุณรำพึง คุณพระเห็นว่ายังไงบ้างครับ”
“ขอบคุณครับ แต่ผมดูแลระพีได้”
“ผมอยากช่วยแบ่งเบาให้คุณพระได้ตามหาคุณรำพึงอย่างไม่มีห่วง อีกอย่างระพีจะได้มีแม่น้อยเป็นเพื่อน และยังพ่ออัฐที่เห็นกันมาแต่เด็ก”
คุณพระไวน้ำตาเอ่อกอดระพีไว้แน่น
“ผมเคยสัญญาว่าจะไม่ทิ้งระพี”
“คุณพระไม่ได้ทิ้ง เพียงแต่ตอนนี้คุณพระต้องทำสิ่งที่สำคัญ ผมเชื่อว่าระพีจะเข้าใจ”
คุณพระไวกอดระพีไว้แน่น น้อยมองระพีอย่างเห็นใจ

ทัดนั่งอยู่ที่สวนในเรือนคุณพระเกิด แล้วนึกถึงเรื่องราวเก่าๆหลายเรื่อง เขานึกถึงคำพูดของคุณหญิงมณี
“บวช!”
“ใช่ ลูกต้องบวชให้เจ้าคุณพ่อ”

ทัดยังจำติดตาที่เห็นพระยาสุรเดชไมตรีกำลังชดใช้กรรมในนรก
“บาปของลูกที่พ่อร่วมทำ พ่อก็ต้องชดใช้บาปนั้น”
นายนิรยบาลแทงพรวดเข้ามา “อ๊าก!”
ขุนพิทักษ์ดิ้นรนจะไปหาพ่อ
“ลูกขอโทษ เพราะลูก เพราะลูกคนเดียว ลูกขอโทษ!”
“ต่อให้พ่อต้องตกนรกขุมที่ลึกที่สุด พ่อก็พร้อมที่จะรับกรรมแทนลูก”

รำพึงยกมีดขึ้น พิทักษ์หลับตายอมตาย รำพึงฟันฉับ มีดตวัดไปตัดเชือกที่มัดข้อมือพิทักษ์ขาด

“บ่วงกรรมของเรายังไม่จบสิ้น!”
รำพึงถูกเผาในกองไฟ นวลเดินเข้ามาหาทัด

“ท่านขุนคิดอะไรอยู่เหรอคะ”
“พี่กำลังคิดถึงชีวิตที่ผ่านมา มีผิดมีพลาด แต่ทุกอย่างมันเริ่มต้นจากตัวเราเองที่จะเลือกเดินไปในทางบุญหรือทางบาป ทางของพี่มีแต่บาปกรรมที่ทำให้คนอื่นต้องเจ็บปวด”
นวลเข้าไปกอดปลอบ
“ทุกอย่างมันผ่านไปแล้วค่ะ สำคัญที่เรารู้ว่าอะไรคือต้นเหตุแห่งบาป เราก็หยุดมัน แล้วก็เริ่มต้นสร้างบุญกันใหม่”
ทัดตัดสินใจ
“ข้าจะบวช!”
นวลชะงัก ทัดพูดจริงจัง
“พี่จะขออุทิศบุญทั้งหมดให้กับทุกคนที่พี่เคยสร้างบาปไว้กับเขา ชุ่ม เอ็งจะขัดข้ามั้ย”
ชุ่มยิ้ม น้ำตารื้น
“สิ่งใดที่ท่านเลือก คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับข้าและลูก ไม่มีวันที่ข้าจะรั้งท่าน..ถ้าทางนั้นจะนำท่านไปสู่หนทางที่ดี”
ทัดกับชุ่มกอดกันแน่น

ในเวลากลางคืน คุณพระไวเดินมาในมุมสกปรกด้วยความเหนื่อยอ่อน แล้วก็ได้ยินเสียงโหวกเหวก
“อีผีบ้า ออกไป! เสนียดจะมาติดบ้านข้าออกไป”
คุณพระไวเดินตามเสียง ภาพที่เห็นคือซากมนุษย์ที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยย่นที่โดนไฟเผา ชาวบ้านผลักผู้หญิงคนนั้นลงไปกองกับพื้น ผู้หญิงคนนั้นเงยหน้าขึ้นมา คุณพระไวถึงกับช็อก เพราะหญิงนั้นคือ รำพึงนั่นเอง! ไม่มีทางที่เขาจะลืมผู้หญิงที่เขารักมาตลอดชีวิต
“รำพึง!”
รำพึงคลานเข้าไป ชาวบ้านเอาน้ำสาด คุณพระไวเข้าไปห้าม
“บอกให้ไป! อีหน้าผี!”
“พอได้แล้ว!”
ชาวบ้านหยุดชะงัก สายตาคุณพระไวเอาจริง ชาวบ้านหงุดหงิดเดินออกไป รำพึงคลานเข้าไปหาเศษขยะเอามากิน คุณพระไวมองรำพึงด้วยความเวทนาสงสาร รำพึงเอาเศษอาหารขึ้นมากิน หัวเราะบ้าง ร้องไห้บ้าง
คุณพระไวค่อยเข้าไปหารำพึง รำพึงกลัวถอยหนี
“อย่านะ..ข้าเป็นลูกพระยานะ..ข้าสวยนะ...อย่าทำข้า ข้าเจ็บ”
ภาพในอดีตของรำพึงที่งดงาม ซ้อนกับภาพปัจจุบันที่ต่างกับราวฟ้ากับเหว คุณพระไวน้ำตาไหลที่เห็นรำพึงต้องตกอยู่ในสภาพนี้
“พี่ไม่ทำร้ายเจ้า”
“จริงนะ…”
คุณพระไวพยักหน้า รำพึงยิ้มกว้างให้ คุณพระไวสุดจะทน โผเข้ากอดรำพึงทั้งน้ำตา
“ไม่ว่าน้องจะเป็นยังไง...หัวใจของพี่จะเป็นของน้องเสมอ”
คุณพระไวกอดรำพึงไว้แน่น รำพึงค่อยๆเอามือมากอดขุนไว ตบบ่าเบาๆเหมือนโอ๋ ท่ามกลางกองขยะรำพึงอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายที่ทั้งหัวใจเขาให้เธอ

เช้าวันใหม่ พระทัดครองจีวร ยืนอยู่หน้าโบสถ์ ความสงบภายใต้ใบหน้าของทัด คือความสุขที่แท้จริงที่เขาพบเจอ นวลและอัฐมองทัดอย่างยินดี อัฐกราบเท้าหลวงพ่อทัด ก่อนที่พระทัดจะเดินออกธุดงค์ไป
“ความรัก โลภ และลุ่มหลงคือบาปทั้งปวงที่มนุษย์หลงวนเวียนเข้าไปติดในบ่วงกรรมนั้น ทุกกรรมที่เราก่อ...รอเวลาหวนคืน ทุกบาปที่เราสร้าง...รอคอยการชดใช้ หยุดโลภ หยุดลุ่มหลง...คือหนทางแห่งการหยุดบาป

สร้างบุญ สร้างความดี...เป็นหนทางแห่งความสุขที่แท้จริง”

*****อวสาน******

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนอวสาน วันที่ 19 มี.ค. 56

ละครเรื่อง บ่วงบาป บทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละครเรื่อง บ่วงบาป บทโทรทัศน์ : พอวาสน์-นันทพร
ละครเรื่อง บ่วงบาป กำกับการแสดง : กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง บ่วงบาป แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง บ่วงบาป ผลิต : บ้านละคอนโดย อรพรรณ วัชรพล
ละครเรื่อง บ่วงบาป ออกอากาศทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่ม กุมภาพันธ์ ทางไทยทีวีสีช่อง3
ที่มา manager